December 29, 2013

REview : Annika Deodorant Roll On


               โรลออนตัวนี้ได้มาใหม่ เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว หลังจากไปเตร็ดเตร่ตามร้านขายส่งเครื่องสำอางค์ กำลังจะจ่ายเงิน น้องพนักงานก็เชียร์บอกจัดตัวนี้เลยค่ะน้อง อั้ยย่ะ เรียกเราน้องด้วย เลยจัดมา 1 อัน 39 บาท ทดลองใช้ก่อน บ้ายอไง ช่วงนี้ใครเรียกน้องแล้วจะปลื้ม แบบว่าป้าแก่แล้ว เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครเรียกน้องแล้วไง 555

           เราเคยรีวิวตัวเสปรย์จั๊กที่ชอบตลอดกาลไว้นะ คือตัว 

Boots 24 Hour Protection Sensitive Unfragranced Anti-Perspirant  ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังรักตัวนี้อยู่นะ เพียงแต่ว่าเหมือนทางบู๊ทจะไม่เอาเข้ามาแล้ว เพราะเดินหาอยู่หลายเดือนก็ยังไม่เห็น ช่วงนี้เลยลองหาผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นมาใช้ทดแทน ซึ่งพอได้ตัวนี้มาเราชอบนะ มันดีกว่าที่คิดไว้มาก ๆ 


ส่วนผสม
         
            เมื่อก่อนที่จะใช้ของบู๊ทก็เคยลองผลิตภัณฑ์สารส้มมาหลายแบบ ยอมรับเลยว่าตัวสารส้มเป็นสิ่งที่กำจัดกลิ่นได้ดีกว่าโรลออนไหน ๆ ที่เคยลองมา ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีหลายแบบให้เลือกใช้งานอยู่ แบบแท่งแข็ง ๆ ของเกรซ ที่ต้องเอาไปชุบน้ำก็เคยลองอยู่ ก็รู้สึกว่าไม่สะดวกใช้งานเท่าไหร่ เพราะต้องรอให้แห้งก่อนถึงจะใส่เสื้อได้ ต้องมากางจั๊กเป่าพัดลม ซึ่งเป็นสภาพที่ไม่น่ามอง วันไหนรีบ ๆ ก็ลืมไปได้เลย (ซึ่งดิชั้นชั้นรีบทุกวัน เพราะสายทุกวัน อุวะฮ่ะฮ่ะฮ่า)   แบบเสปรย์ก็เคยลองนะ เคยใช้ยี่ห้อ Miracle crystal deo spray อันนั้นดีมาก ๆ แต่ใช้ไม่ถึงครึ่งขวดหัวฉีดก็ตันซะงั้น เอาหัวฉีดไปแช่น้ำร้อนซักพักก็กลับมาเป็นอีก  แต่ตัว Annika นี้มันเริ่ดมาก ๆ กำจัดกลิ่นได้เหมือนสารส้มตัวอื่น ๆ แต่ใช้งานง่าย แห้งไว ทิ้งไว้ก็ไม่เป็นตะกอน ไม่เป็นคราบที่เสื้อ จั๊กไม่ดำ ขนขึ้นช้าด้วย บอกตรง ๆ ว่าประทับใจ

        ตัวนี้จะระงับกลิ่นได้ประมาณ 8 ชั่วโมงนะ ไม่ได้ยาวนานมากเหมือนเต่าเหยียบโลก (ซึ่งเราเคยใช้ อ่านเหตุผลที่เราเลิกใช้ได้ที่รีวิวบู๊ทนั่นแหละ) ประสิทธิภาพก็พอสมควร ประมาณว่าเช้าไป เย็นโหนรถเมย์กลับบ้านก็ยังชิว ๆ นะ สำหรับเรา 1 ขวดก็ใช้ได้นานเป็นชาติเลยทีเดียว ใช้มาเดือนนึงยังไม่ถึงครึ่งเลยนะ ขอบอก 


สรุป     คิดว่าจะซื้อต่อนะ ถ้าของบู๊ทยังไม่เอากลับมาขายในเมืองไทย ของไทยใช้ดีบอกต่อ ไทยกินไทยใช้ไทยเจริญ เย่






5/5
---





December 27, 2013

WTF : สิวและสิวและสิว ภาค 2



               ลืมไปเลยว่าจะมาเขียนต่อภาค 2 ตอนนี้คือหน้าปัจจุบัน สิวก็หายไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแต่รอยดำ รอบแดงไปตามเรื่องอ่ะนะ ซึ่งก็ต้องรักษากันต่อไปอีกยาว ๆ หวังว่ารอยคงหายในเร็ววัน สาธุ

              เอาจริง ๆ นะ ยาที่บอกไปในภาค 1 ไม่ได้ทำให้ดิชั้นหายนะคะ บอกกง ๆ สิ่งที่ทำให้หายจริง ๆ คือ เบนแซค เจลล้างหน้าของโปรวาเมดกับ Clarisonic ที่รัก, Clinda M, ฮาดะลาโบะ ส่วนรอบดำที่หายไว ๆ คือฮีรูสกาสีฟ้าเหลือง นั่นแหละ มาว่ากันไปเป็นตัว ๆ เลยละกันนะ


           เบนแซค ที่หาซื้อได้แถวนี้คือ 0.5 ทาก่อนล้างหน้าเพื่อละลายหัวสิวที่อุดตันประมาณ 15 นาทีก่อนล้างหน้า ตัวนี้ช่วยได้มากเลยจริง ๆ ใครที่เป็นสิวอุดตันไม่มีหัวแบบเรานะ ตัวนี้จะทำให้หัวมันเปิดออกไวมาก ๆ แล้วสิวก็จะแห้งไว ควรมีติดบ้านไว้นะ ที่เราใช้คือหลอด 20 กรัม ใช้ได้ประมาณเดือนนึงเต็ม ๆ 



          Provamed Acniclear Cleansing Gel เจลล้างหน้า สำหรับผู้มีปัญหาสิว ตัวนี้นี่คือเสี่ยงดวงซื้อสุด ๆ ไม่มั่นใจเลย เพราะเราเคยแพ้ครีมกันแดดของยี่ห้อนี้มาก่อน แต่ที่ซื้อเพราะมันแถมกระเป๋าไม่รู้สีชมพูน่ารักดี (เห็นแก่ของแถมนั่นเอง แป่ว ๆ ๆ ) แล้วราคาก็ไม่แพงด้วย 192 บาท ก็เลยจัดมาลอง ปรากฏว่ามันดีเกินคาดนะ เราใช้กับ Clarisonic ไง  เจลเวลาโดนน้ำมันจะเป็นฟองแข็ง ๆ ไม่ย้อยไปทั่วหน้าเหมือนโฟมยี่ห้ออื่น ๆ เลิฟมากอ่ะ ล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึงดีด้วย (เราผิวแห้ง) ใช้แล้วสิวแห้งไวดีมาก สิวผดลดลงเยอะเลย ไม่รู้แหละว่าเพราะยาตัวไหน เดาเอาว่าเจลล้างหน้าก็มีส่วน 555 แนะนำตัวนี้ไว้เป็นอีกทางเลือกของคนเป็นสิวนะ สำหรับเรามันดีมากจริง ๆ 


         ฮาดะลาโบะ สีขาว คือตัวมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ใช้เวลาเป็นสิว คือเราไม่แน่ใจว่าแพ้ครีมไหน หรือเพราะอะไรสิวถึงขึ้น เลยไม่ได้กล้าใช้ครีมอะไรมั่วซั่ว พอทายาแล้วมันจะแห้งมาก ๆ ถ้าไม่ทาอะไรเลย หน้าเราก็จะลอกโครต ๆ ซึ่งตัวนี้ดีนะ หน้าไม่เป็นขุยเลยทั้ง ๆ ที่ทายาสิว

       Clinda M เอาไว้ทาแต้มสิว ตัวนี้ดีจริงแหละ จะไม่ลองของใหม่ละ กลับมาตายลังที่ของเดิมนี่แหละ ราคาประมาณ 50 บาท ใช้ได้เป็นเดือนเลย รักอ่ะ ขออภัยที่ไม่มีภ่พ ลืมถ่าย


             ฮีรูสการ์ หลอดฟ้าเหลือง ลองโพสแอคเน่ละ ไม่โดนนะ เราว่าสูตรนี้รอยหายไวสุด สำหรับเรานะ ใช้โพสแอคเน่ สิวเสือกขึ้นทับอีตรงที่ทาแก้รอยสิวซ้ำซะงั้น พอกันที สราดดดดดด ตัวนี้แหละเริ่ดจริงอะไรจริง เพื่อนที่เคยรถคว่ำหน้าแหกแนะนำตัวนี้ให้ใช้ เพราะนางมีแผลถลอกเต็มหน้าเลย พอใช้ตัวนี้แล้วแทบไม่หลงเหลือรอยเลย รอยจางไวมาก ๆ 


             ก็ประมาณนี้แหละสูตรรักษาสิวของเรา มันก็แล้วแต่หน้าคนแหละนะว่าจะเหมากันยาตัวไหน เอาเป็นว่าเราเสนอทางเลือกให้สำหรับคนเป็นสิวอีกสูตรละกันนะ สู้กันต่อไป ไม่ว่าดูแลจะหน้าดีแค่ไหน ยังไงวงจรสิวก็ต้องวนมาอยู่ดีนั่นแหละนะ ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ตาม  









December 25, 2013

Review : Mistine Iron Curve Love Mascara


            ของฟรีชิ้นสุดท้ายจากมิสทีน มาสคาร่ารุ่นญาญ่านั่นเอง ส่วนตัวเราไม่ชอบปัดมาสคาร่า เหตุผลเหมือนเดิมคือ ขี้เกียจล้าง แล้วมันก็ชอบเข้าไปในตาด้วย ขี้เกียจล้างตามาใส่คอนแทกใหม่ หลังจากเดจาวูสีแดงสุดที่รักหมดลง ก็ไม่ได้คิดจะซื้อของยี่ห้อไหนอีกเลย เนื่องจากไม่มีเงิน และอยากซื้อของเดจาวูอีกนั่นเอง ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ยังแพงมากสำหรับ ไม่มีปัญญาซื้อแท่งใหม่


                เราเป็นคนขนตาตก พอไม่ได้ดัดก็จะพุ่งลงดินอย่างที่เห็น เหมือนคนหลับตลอดเวลา ขนตาก็ไม่ได้ยาวมากนะ มีพอควร


            ตัวนี้จะมีหัวแปรงแบบตัวซี สำหรับเราว่ามันใหญ่ไปอ่ะ เวลาปัดแล้วมันไม่สม่ำเสมอ คือตาเราเล็กนั่นเอง มันใหญ่เกินตา ชอบแบบธรรมดามามากกว่า ไม่ต้องโค้งก็ได้ พอโค้งแบบนี้แล้วใช้ไปซักพัก มาสคาร่าที่แห้งจะมากองอยู่ตรงปลายแปรง เวลาปัดจะเป็นก้อน ๆ ไม่ชอบง่ะ


            เออ จะว่าไปนะ ลืมถ่ายด้ามมันมาให้ดู ลองเสริชดูนะ เราชอบแพคเก็จมัน แดงดี จับถนัดมือด้วย เป็นเหลี่ยม ๆ ไม่หลุดมือดี อย่างอื่นก็ไม่รู้จะเม้นท์อะไรนะ มาลองดูตอนปัดละกัน


             คือเราไม่ชอบมาสคาร่าที่ปัดแล้วเป็นก้่อน ๆ แบบนี้ มันต้องเสียเวลาเอาแปรงมายีให้แตกตัวอีกรอบ บางทีก็ลืมตัว ทำแรงไป แปรงทิ่มตาอีก ชอบแบบที่เป็นไฟเบอร์มากกว่า ซึ่งก็แพงกว่าอ่ะนะ อีกอย่างตัวนี้จะแห้งช้านิดนึง อย่าเผลอกระพริบตาก่อน นางจะกลายร่างทันที ปัดขนตาบนได้ขนตาล่างมาด้วย 555



           มาเทียบก่อนหลังนะ ก็เด้งจริงแหละ ตัวนี้พอปัดแล้วรอสักพักให้แห้งสนิทค่อยหนีบขนตาอีกที จะเด้งทนนานทั้งวันมาก แต่พยายามอย่าใจร้อน ถ้าไปหนีบก่อนมาสคาร่าแห้ง นางจะเป็นแพอย่างแรง น่ารำคาญไปทั้งวันเลยทีเดียว




ส่วนเรื่องความทนทานนั้น ยอมรับว่าทนจริงไม่แพนด้วย ขนตาไม่ตกเลยทั้งวัน ประทับใจในส่วนนี้นะ ล้างคลีนซิ่งธรรดาไม่ออกนะ ต้องใช้อันที่ส่วนผสมของน้ำมันผสมถึงจะออกดี เช่นพวกบีโอเรออย อะไรทำนองนี้






ปล.ของด่าหน่อยนะ อันนี้นอกเรื่อง คือไปเล่นเกมกับเวบนึงแล้วได้ของรางวัลเป็นตัวทดลองคลีนซิ่งตัวนี้มา เออ ก็เข้าใจนะว่าของฟรี แต่แบบว่าช่วยทำให้มันดีหน่อยได้ไหม จับใส่ถุงมาก็ไม่บอกว่าเป็นอะไร แล้วขวดเทสเตอร์ก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่น อ่านก็อ่านไม่ออก จะใช้ก็ไม่กล้าใช้ ต้องหิ้วขวดไปเทียบกับบีโอเรในวัตสันว่าตัวไหน เออ จะแจกเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ เสือกไม่บอกห่าอะไรเลย ให้แผ่นพับภาษาไทยมาอันเดียวแล้วให้เทียบเอาว่าตัวที่ได้มาเป็นตัวไหนว่างั้น ซึ่งขวดที่ให้มาก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่นจะเทียบกันยังไงละครับคุณ เออ ทำการตลาดแบบนี้ก็เจริญแหละค่ะมึง แทนที่จะประทับใจดันเซ็งแทนซะงั้น ว่าจะรีวิวตั้งแต่ได้มาใหม่ ๆ แหละ แต่โมโหจนลืมไปละ เนี่ยนึกขึ้นได้ เลยขอขุดมาด่าหน่อยนะ









2/5
---








December 22, 2013

Review : Vaseline Healthy White SPF30 PA++ Serum


               โลชั่นตัวนี้ได้มา 1 แถม 1 ราคา 159 บาท ตัวเซรั่ม spf 25 ของนีเวียหมดพอดี เลยลองจัดมา เพราะเห็นว่าเป็นของใหม่ สรรพคุณก็น่าลองมาก ๆ อีกอย่างถ้า 1 แถม 1 อะไรก็ดีทั้งนั้นแหละ 555 


ส่วนผสม

             ลองใช้มาประมาณ 2 อาทิตย์ได้ เกือบจะหมดหลอดแล้ว ทาเฉพาะกลางวันอย่างเดียว ใช้แล้วก็โอเคนะ เนื้อครีมซึมง่าย ไม่ทิ้งคราบมันได้บนผิว ไม่ต้องรอนาน ประมาณว่าทาเสร็จใส่เสื้อทับก็ออกจากบ้านได้เลย ถ้าเทียบกับตัวนีเวียที่เคยใช้ตัวนี้จะเนื้อหนากว่า ชุ่มชื่นกว่านิดนึง

          สิ่งที่ไม่ชอบก็คือกลิ่นนะ เราไม่ชอบกลิ่นของโลชั่นวาสลีนซักอัน กลึ่นมันอึน ๆ เหมือนน้ำมันค้างปียังไงบอกไม่ถูก ไอ้ตัวนี้กลิ่นมันผสมสารกันแดด ถ้าใครเคยใช้ KA ทาตัว spf 33 น่าจะนึกออก กลิ่นของวาสลีนตัวนี้จะเป็นแบบนั้นเลย ซึ่งไม่ชอบเอามาก ๆ เลย ทาแล้ววิงเวียน จิเป็นลม ซึ่งอันนี้แต่ก็แล้วแต่คนชอบนะ บางคนอาจจะคิดว่าหอมก็ได้


        ส่วนประสิทธิภาพการกันแดดนี่เราไม่แน่ใจนะ เพราะเราทาตัวนี้เสร็จก็จะทาบานาน่าโบ๊ททับอีกที แต่เคยลองทาตัวนี้เดี่ยว ๆ นะ ปรากฏว่าพอโดนฝนเป็นคราบขาว ๆ แฮะ อาจจะเพราะเราโบกมากเกินไปรึปล่าวไม่แน่ใจเลยทำให้มันเกิดคราบ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าตัวนี้ไม่กันน้ำนะ ใครอยากทาไปเล่นน้ำทะเลคิดว่าซื้ออันอื่นเหอะ



สรุป         คิดว่าไม่ซื้อต่อนะ ถึงจะ 1 แถม 1 ก็เหอะ เพราะแอบไปส่องที่ห้างแถวบ้านมา ตัวนีเวียปรับสูตรใหม่เป็น spf 33 pa +++ (โชว์เหนือวาสลีนชัด ๆ แอบเลวนะ 555 ) ไปดมมาแล้วชอบมาก หอมฝุด ๆ เนื้อครีมก็ยังเป็นเหมือนสูตรเดิมด้วย เลยคิดว่าจะกลับไปใช้นีเวียเซรั่มต่อนะ 





3.5/5
----


December 18, 2013

Review : Mistine I am Eyeliner อายไลเนอร์ มิสทีน ไอ แอม


         ตัวนี้เป็นไลเนอร์ที่ได้มาจากเล่นเกมกับเฟซบุ๊คของมิสทีน ได้มาเป็นชุดอยู่เหมือนกันนะ  แจกน้อง ๆ ที่ทำงานไปเกือบหมด เหลือแค่ไลเนอร์กับมาสคาร่าเอง ถือว่ารีวิวนี้ก็เป็น SR ได้อยู่นะ 555 ของฟรีอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีดวงทางด้านนี้

 

         ปกติเราไม่ใช้ไลเนอร์แบบนี้น่ะ เพราะไม่แน่ใจเรื่องหัวปากกาว่าจะเขียนถนัดไหม ไม่อยากเสี่ยงดวงซื้อ ส่วนใหญ่จึงจะมีแต่เจลไลเนอร์มากกว่า ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ด้วยซ้ำ เพราะใช้อายชาโดว์สีดำของ sleek แทน แบบว่าจนและขี้เกียจล้าง เนื่องจากหันมาใส่คอนแทกเลนส์เวลาทาไลเนอร์แบบนี้มันชอบเป็นฟิล์มหลุดไปในตา เลยไม่ฮิตแบบนี้เท่าไหร่



               แต่ตัวนี้ดีนะ มันไม่เป็นฟิล์มแบบยี่ห้ออื่น ๆ เสียแต่ว่าแห้งช้าไปหน่อย ชอบเลอะเวลาที่กระพริบตา สีก็ดำดี ใช้ได้ ราคาก็พอสู้ไหวนะ ไม่ถึงร้อย ควักง่าย ๆ แบบไม่คิดอะไร




ทดลองเขียนแล้วได้ประมาณนี้ ก็งามอยู่นะ หัวมันเขียนง่ายดี เหมาะกับการทำแคทอาย ขออภัยใช้แทบเลตถ่ายเลยไม่คมชัดเท่าไหร่ อันนี้ยังไม่ได้ปัดมาสคาร่าจ๊า



               ทีนี้มาทดสอบเรื่องกันน้ำกัน ปรากฏว่า เอาน้ำราดเฉย ๆ นี่อยู่ทนนะ แต่พอเอาสำลีปาดแค่นั้นแหละ จบเลย ตายกันง่าย ๆ แบบนี้แหละ สรุปคือถ้าเปียกฝนไม่ไหล แต่อย่าเอามือไปถู เท่านั้นแหละ ส่วนตัวเราใช้วิธีเอาอายชาโดว์สีดำทาทับอีกที ไม่แพนด้า ไม่เป็นผง ไม่เลอะ ล้างออกง่าย 


สรุป ประทับใจอยู่นะ ชอบที่ล้างออกง่าย แล้วก็ไม่เป็นฟิล์มนี่แหละ แต่คงไม่ซื้อซ้ำแน่นอน ลองตัวใหม่ดีกว่า ไม่ได้ติดใจอะไรขนาดนั้น




1.5/5
---

December 11, 2013

What's New ? : Essential Damage Care Nuance Airy Shampoo & Conditioner


           แชมพูที่พึ่งซื้อใหม่เมื่อไม่กี่วันมานี้ ห้างแถวบ้านลดราคา เหลือ 124 บาท 1 แถม 1 เลยจัดมาซะหน่อย เคลียหมดพอดี ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนะ แค่อยากลองเท่านั้นแหละ ปรากฏว่าชอบแฮะ หอมมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ประทับใจเลยแหละ


          ตัวแชมพูหอมเบอรี่แบบมาก ๆ จนเคลิ้มเลย เค้าบอกว่าสูตรนี้สำหรับผมเสีย ปลายผมแห้งหยาบ พันกัน ซึ่งก็โอเคนะ คหสต เราว่าถ้าใช้เดี่ยว ๆ ไม่ลงครีมนวดมันจะแห้งไปซักนิดสำหรับเรา คือเราผิวแห้ง ผมแห้ง สรุปคือแห้งทั้งตัว 555 ถ้าคนผมมันเราว่าอาจจะดีนะ อันนี้ต้องลอง


              ตัวครีมนวดกลับไม่หอมแฮะ คือในใจเราคิดว่ามันน่าจะหอมกว่า แต่ดันเป็นแชมพูที่หอมมาก ๆ กลิ่นครีมนวดอึนมาก ๆ เหมือนจะหมดอายุ (เอ๊ะ หรือนี่คือเหตุผลที่ 1แถม 1 5555) นวดแล้วก็นิ่มขึ้น โอ อยู่นะ ใช้คู่กันแล้วจัดทรงง่ายมาก ไม่ค่อยฟูกระจายเหมือนเดิม

           สรุปชอบนะ แต่ถ้าไม่ 1 แถม 1 คงไม่ซื้ออีก ชอบเคลียมากกว่า อันนี้ใช้แล้วแอบมีรังแคน่ะ หรือเพราะเราล้างไม่หมดก็ไม่รู้




2.5/5
----




November 20, 2013

WTF : สิวและสิวและสิว ภาค 1

กดขยายภาพได้นะ ช็อคมากเลยล่ะ ขอบอก

                   ช่วง 2 3 เดือนมานี้เจอวิกฤติชีวิต สิวกระหน่ำมาก เกิดจากทั้งฮอร์โมนด้วย แล้วก็พักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วก็ขึ้นอยู่ข้างเดียวด้วย ไม่เข้าใจวงจรร่างกายจริง ๆ หน้าแย่มากที่สุดในรอบหลายเดือน รู้สึกเซ็งสุด ๆ วันนี้เลยจะมารีวิวตัวยารักษาสิวที่ใช้อยู่ให้ดูกัน



         ตัวแรกที่ใช้คือของโรงพยาบาลยันฮี ซื้อมาจากเซเว่นในราคา 99 บาท กลิ่นหอมดี เนื้อจะหนักนิดนึง ทาแล้วไม่ค่อยซึมเท่าไหร่ ทาแล้วจะทิ้งความมันไว้นิดนึง ประสิทธิภาพตามราคา ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็ทนใช้จนหมดหลอด สิวก็ยังไม่ดีขึ้น ทยอยผุดออกมาเป็นระยะ เลยต้องเปลี่ยน ไม่รู้สิของแบบนี้ก็คงแล้วแต่คนมั้ง บางคนบอกตัวนี้นี้ดี แต่กะหน้าเรานี่ไม่ไหวจริง ๆ 


เจลแต้มสิว Smooth E Acne Hydrogel VS ครีมแต้มสิวยันฮี

            ตัวที่สองที่ใช้คือของสมูทอี ได้เป็นของแจกจากเวบวนิลาตอนเอาแต้มไปแลกของรางวัล อันนี้ราคาเต็มเกือบ 200 ได้ อันนี้ใช้ดีนะ สิวยุบดี แต่ผิวแห้งระเบิดระเบ้อ ทาแล้วซึมไวดีด้วย ประสิทธิภาพค่อนข้างดี เนื้อครีมจะเบา ๆ นิดนึงถ้าเทียบกับของยันฮี ซึ่งก็ยังไม่ถูกใจนะ และสิวก็ยังไม่หาย เดี๋ยวภาคต่อมาดูว่าเราใช้อะไรหาย




ลองถ่ายรูปเทียบเนื้อผลิตภัณฑ์ให้ดู ถ้าเทียบความชอบเราให้ สมูทอี > ยันฮี



November 12, 2013

Review : Panasonic Hair Styler EH-KA31-W หวีไดร์ผม พานาโซนิค



             ของใช้ (?) ที่เพิ่งซื้อได้ซักพักอีกตัวนึงก็คือ หวีไดร์ผมของพานาโซนิกนั่นเอง ซื้อมาก 1200 ได้มั้ง เราซื้อรุ่นเล็กมา จะมีหัวเปลี่ยน แค่ 3 หัว ถ้ารุ่นใหญ่กว่านี้ก็จะแพงไปอีก แต่เราอยากได้แค่หวีอย่างเดียว  เลยซื้อรุ่นนี้มา ถือซะว่าอีก 2 หัวเป็นของแถม คือตอนที่ไปที่พาวเวอร์บายนั้น เค้ามีรุ่นที่เป็นหัวหวีอย่างเดียวด้วย ราคา 890 บาท แต่พนักงานขายบอกว่าอันนั้นเป็นโมเดลเก่าแล้ว เอารุ่นนี้ดีกว่า เพิ่มเงินอีกนิดนึงเอง (เหรอ ?) รุ่นนี้จะเสียงเบากว่า แล้วก็ลมแรงกว่า เราเชื้อก็คนง่ายก็จัดมาแบบงง ๆ 


               ข้างกล่องโม้ว่าเสียงไดร์เบามั่ก ๆ จากที่ใช้มาก็เบาจริงนะ เบากว่าที่คิดไว้  ตัวนี้จะมีปุ่มระดับให้ 3 ระดับนะ ชอบที่มันมีลมเย็นให้ด้วย ส่วนข้อเสียของปุ่มคือ เรามือใหญ่มั้งพอหวี ๆ ไปแล้วนิ้วเลยเลื่อนไปปิดเครื่องซะงั้น คนอื่นคงไม่เป็นแหละ แต่ชั้นบ้านนอกน่ะ เลยแอบรำคาณตรงนี้เล็กน้อย น่าจะมีตัวล็อกปุ่มซักอันนะ คหสต เพราะเวลาใช้มันจะได้ไม่เลื่อนไปเลื่อนมา


มีวิธีและผลลัพธ์การใช้ของแต่ละหวีมาหลอกเราที่ข้างกล่องด้วย อั้ยย่ะ ชั้นก็เชื่อคนง่าย ใส่ถุงเลยจ๊า


           เปิดกล่องออกมาก็ไม่ใช่แบบนี้ เพราะเราเอาออกมาใช้แล้วหลายครั้ง สายไฟเลยพันกันอีรุงตุงนัง ถ้าใครเปิดมาแล้วเจอแบบนี้แสดงว่าโดนหลอกจ๊ะ ได้ของมือสองมาแน่นอน เพราะของจริงจะเรียบร้อยกว่านี้ หัวแปรงแต่ละอันจะมีถุงพลาสติดครอบมาให้อย่างดี


              ตัวเครื่องเล็ก ๆ เบา ๆ จับถนัดมือมาก ถ้าใครไม่อยากใช้หวี ก็เปิดเครื่องเป่าได้เลยนะ มันมีตะแกรงกันผมเข้าไปพันด้วย ไม่ต้องกลัว เราก็ใช้ประจำ เบาดีกว่าไดร์ทั่วไป ถนัดมือมาก ให้ความรู้สึกเหมือนเอาท่อเครื่องดูดฝุ่นมาจ่อหัว (เอ๊ะ ยังไง 555 )

                        

           ข้อต่อสายหมุ่นได้ 360 องศานะ ส่วนสายไฟไม่ยาวเท่าไหร่ประมาณเมตรกว่า ๆ ไม่น่าถึงสองเมตรนะ จากที่กะด้วยสายตาดู ตรงก้นมีตะแกรงกรองผมด้วย งานออกแบบทำได้ดีนะ ชอบ 

                    

              ปุ่มขาว ๆ นั้นคือตัวล็อกหัวหวี เวลาเปลี่ยนก็กดที่ปุ่มแล้วก็ดึงออก เวลาใส่เข้าก็หมุนหัวให้ตรงกับเข้าแล้วก็ยัดเข้าไปเลย ถ้าพอดีก็จะใส่ได้ ถ้าไม่พอดีก็จะใส่ไม่ได้ (เอ๊ะ ยังไง 555 ) ถ้าพอดีจะมีเสียงดังกริ๊กน่ะ เหมือนตัวล็อคมันเข้าที่ ใช้งานได้เลยจ๊ะ


                หัวหวีแรกเป็นอันที่ใช้บ่อยที่สุด เอาไว้หวีตอนผมหมาด ๆ อย่าหวีตอนผมเปียกนะจ๊ะ เพราะผมจะร่วงอย่างแรง เอาตอนหมาด ๆ พอ หวีแล้วผมตรงมาก ๆ ขอบอก ไม่กระเซอะกระเซิง ผมสวยงามเป็นประกาย แต่ข้อเสียคือพวกคราบต่าง ๆ มันจะมากองอยู่ตรงขอบ ๆ สีฟ้า ๆ ต้องหมั่นทำความสะอาดนิดนึง ถ้าเป็นคนมีขี้หัวเยอะอ่ะนะ เราใช้วิธีขัดด้วยแปรงสีฟัน (ที่ไม่ใช้แล้วนะจ๊ะ) แช่เดทตอลไว้สิบนาทีแล้ววางผึ่งไว้ ส่วนพวกเส้นผมก็ใช้มือดึงออกได้นะ ไม่ได้เอาออกยากขนาดนั้น


           ต่อไปเป็นหัวที่ 2 เอาไว้ทำให้ปลายผมงุ้ม ๆ แบบนางแบบ ตอนแรกนึกว่ามันจะหมุน ปรากฏมันไม่หมุนเราต้องบิดข้อมือเองซะงั้น อิชั้นก็มโนไปไกล ไอ้หัวนี้ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่อยากปลายงุุ้มอ่ะ เคยลองนึกสนุกมาม้วนผมด้วยได้หัวหวีนี้ก็ไม่สำเร็จนะ เพราะผมเราซอยไม่เท่ากัน พอเข้าเครื่องนี้ก็เลยไม่ค่อยจะติดหวีแบบพอที่จะม้วนได้ แต่ถามว่ามันเป็นลอนไหม มันเป็นนะ แต่ต้องม้วนทิ้งไว้ประมาณเกือบนาทีแน่ะ เราขี้เกียจไง เลยไม่ค่อยได้ทำ
  

              หัวสุดท้ายเป็นแบบหนีบ ตัวนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะผมเรายาวมั้งเลยไม่เป็นลอน ความร้อนมันไม่พอน่ะ ไม่เหมือนพวกเครื่องม้วนโดยตรง แต่เอาไว้ม้วนขำ ๆ น่ะ แต่ แต่ต้องจับผมเป็นช่อเล็ก ๆ มากเลยนะ ถึงจะเป็นลอนดี ซึ่งผมดิชั้นหนาอย่างแรง เลยขี้เกียจม้วน วันไหนนึกคึกก็เอามานั่งทำ สนุกดีเหมือนกัน ลอนอยู่ได้นานด้วย


ผลการใช้ : ในราคาไม่เกิน 1200 ได้หัวมา 3 แบบก็โอเคนะคุ้มนะ เราชอบแบบที่เป็นแปรงหวีมากกว่าไดร์ธรรมดา เพราะรู้สึกว่าสะดวกดี ผมก็ตรงดีด้วย คือเราอยากผมตรงนะ แต่ไม่อยากตรงถึงขนาดใช้เครื่องหนีบ เพราะผมเราเสียจากการเปลี่ยนสีผมมา ไอ้หวีไดร์นี้ก็ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งาน มันสามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเสียหรืออะไร เพราะไม่ร้อนมากไป

ปล. เป็นผู้หญิงเนี่ย เวลาออกเดินทางไปไหน พยายามอย่าให้ผมเปียกออกจากบ้านนะ เป็นบุคลิคที่ไม่ดีเลย เราเจอประจำ พวกที่ผมหมาด ๆ แล้วมาเป่าเอาตอนนั่งรถเมย์เนี่ย ซึ่งผมมันก็จะไปพาดคนนั่งเบาะหลังน่ะ นึกออกไหม ซึ่งเราเคยโดน ผมนางยาวมาก ๆๆ ๆ ๆ พุ่งเข้าตาจมูกปากดิชั้นอย่างรุนแรง ต้องสะกิดนางให้รวบผมน่ะ แล้วนางก็ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาด้วย เวรกรรม น่าอายนะ อย่าไปทำ นอกจากบุคลิคไม่ดีแล้ว อีกเหตุผลนึงคือสกปรกด้วยนะ เราเดินทางในเมืองใหญ่ ฝุ่นละอองเยอะแยะ นึกถึงผ้าเปียกเช็ดโต๊ะกับผ้าแห้งเช็ดโต๊ะ อันไหนมันเช็ดโต๊ะแล้วผ้าสกปรกกมากกว่ากัน พอจะเห็นภาพไหม ดังนั้นเราสนับสนุนให้ทุกคนมีไดร์หรือเป่าผมให้แห้งก่อนนออกจากบ้านนะจ๊ะ ขอร้อง ทำเถอะ อย่าขี้เกียจเลย

ปล.2 โปรเจคต่อไปคือซื้อเครื่องม้วนลอน กำลังเล็งของพานาโซนิคกับเลอซาช่าอยู่ มีใครแนะนำตัวไหนไหมจ๊ะ ขอบคุณล่วงหน้าจ๊า



4.5/5
---


November 05, 2013

Review : 5 in 1 beauty care massager Nanonique แปรงขัดตัวจากฟรายเดย์



                 การที่ซิ้อแปรงตัวนี้มา เพราะอยากลองนะ ซื้อมาจากป้าแม่บ้านที่เอาแคตาล็อกมาให้ 159 บาท รอบไหนไม่รู้นานมาก อ่านแล้วเคลิ้มดี เลยลองสั่งดู ไม่ได้คาดหวังมากเท่าไหร่ เพราะว่ามันถูกเว่อร์มากอ่ะ



          ในกล่องจะมีหัวแปรง 5 แบบ ถ้าก็ตัวเครื่องมาให้ ไม่แถมถ่านนะจ๊ะ เราต้องซื้อเอง สภาพจะเยินนิดนึง ขออภัยด้วย เพราะได้มานานมากละ ก่อนจะมาถ่ายรีวิวให้ดู



         ทาด๊า เปิดกล่องมาก็จะเจอหัวแปรงเรียงอย่างสวยงาม 5 อัน จริง ๆ จะมีแผ่นพับแนะนำการใช้อีกแผ่นนึง แต่ดิชั้นทำหายไปแล้ว ค้นเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เลยมาแค่นี้แหละ


            ขนาดไม่ใหญ่นะ จับพอดีมือเลยทีเดียว พอใส่ถ่านเข้าไปก็หนักพอใช้ได้เหมือนกัน ตัวเครื่องไม่กันน้ำนะ เราเผลอตัวนึกว่าใช้ Clarisonic อยู่จ้วงเต็มที่เลย 555 ปรากฏว่าเครื่องดับคับพี่น้อง นึกว่าจะพังไปแล้วซะอีก แต่พอผึ่งให้แห้งกลับมาเปิดก็ใช้ได้เหมือนเดิม เกร๋ไหมล่ะ


               ตัวล็อกหัวแปรงข้างหลังเป็นแบบนี้นะ คล้าย ๆ กับตัว Spin Spa ที่เราเคยสั่งมาจากจีนมาใช้ หลักการทำงานก็เหมือนกันเลย   จะหมุนไปเรื่อย ๆ เหมือนมีมอเตอร์ข้างไหน แต่ตัวนี้เล็กกว่าเลยจะถนัดมือมากกว่า ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับการทำงานของเครื่องนี้นะ ถึงมันจะดูง่อย ๆ แต่ก็สมราคามันน่ะ เอ๊ะ ชั้นชมรึปล่าวเนี่ย



               เครื่องมีสองระดับความเร็วจ๊ะ ปกติก็ใช้เร็วสุดนะ ต่างกันนิดหน่อย แต่เร็วสุดจะสะใจมากกว่า หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะซื้อแปรงทำความสะอาดมาทำไมหลายยี่ห้อในเมื่อมี Clarisonic  อยู่แล้วนะ เอิ่ม เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน 555 ชอบซื้ออ่ะ อาบน้ำแล้วสนุกดี 


              หัวแรกเป็นหัวแปรงปกติ เวลาใช้ก็ใช้ตัวนี้แหละ ขัดบริเวณที่มันกร้าน พวกหัวเข่า ข้อพับ ก็ดีเหมือนกัน สะอาดดี แต่ต้องคอยระวังน้ำเข้าเครื่องนะ เพราะมันไม่กันน้ำ


          หัวที่ 2 เป็นหัวขัด อันนี้เอาไว้ขัดส้นเท้า แช่น้ำอุ่นสักพักแล้วเอาเครื่องนี้มาขัดก็สะใจดีพิลึก สนุกดี พวกหนังหนา ๆ ตามส้นก็ออกดีด้วย (อรั๊ย เขินจุง จริง ๆ เป็นผู้ดีมากค่ะ ส้นเสินอะไรทำให้หนาเพื่อมาลองรีวิวอีกเครื่องนี้เท่านั้นค่ะ )


หัวที่ 3 เป็นหัวนวด อันนี้ไม่เคยใช้แฮะ ไม่รู้จะนวดตรงไหน เลยวางกองไว้อย่างนั้นแหละ 555


          หัวที่ 4 เป็นหัวฟองน้ำ ไม่รู้เอาไว้ทำอะไรเหมือนกัน เลยลองไปลองรองพื้น นึกว่าจะเหมือนพวกเครื่องลงรองพื้นไรงี้ กะหน้าเนียน เกร๋ ๆ ปรากฏว่าฟองน้ำล้างไม่ออกค่ะ ลองแช่สบู่ ผงซักฟอง ลองทุกทางแล้วก็ไม่ออกอยู่ดี เลยไม่รู้ทำยังไงกับมัน 555 ปวดหัวมากเลย


          หัวที่ 5 เป็นหัวฟองน้ำเหมือนแบบที่เอาไว้ล้างจาน เนื้อจะบางกว่าตัวข้างบนนิดนึง เห็นเค้าว่าเอาไว้ทำความสะอาดรอบดวงตา แต่ก็ยังไม่ได้ลองนะ กลัวเหมือนหัวแปรงข้างบน 555 บ้าจริง ๆเลย ซื้ออะไรมาก็ใช้ไม่เป็นซักอย่าง ไม่เข้าใจว่าจะซื้อมาทำไมเหมือนกัน


 ผลการใช้งาน :  ส่วนตัวเราชอบนะ ดีกว่า SPIN SPA อีก เพราะมันเล็กและเบากว่าเลยคอนโทรลได้ง่าย ถึงแม้จะไม่กันน้ำแต่ถ้าเราใช้แบบระวังก็ไม่พังนะ เราใช้มาเกือบ 2 เดือนแล้ว คุ้มค่ามาก ๆ กับเงิน 159 บาท ทีเสียไป (ไม่รวมค่าถ่านชาร์จ 2 ก้อน อีก 230 นะ) ถ้าใครอยากหาแปรงพวกนี้ใช้นะ ตัวนี้เราแนะนำเลย แต่อาจจะไม่เหมาะกับหน้าเท่าไหร่ หัวแปรงมันไม่อ่อนโยนขนาดนั้น ถ้าใช้กับตัวก็จะดีนะพวกสิวที่หลังหรือจุดหยาบกร้านต่าง ๆ ใช้ตัวนี้คู่กับการสครับผิว ค่อนข้างเห็นผลดีทีเดียว คหสต เราคิดว่าพวกเครื่องที่เป็นระบบหมุนระบบการทำงานไม่ต่างกันหรอก เทคโนโลยีคือกัน ที่ต่างกันก็แค่หัวแปรง หรือระบบกันน้ำเท่านั้นแหละ 

ข้อเสีย : ที่คิดได้ ณ ตอนนี้ คือมันไม่มีหัวแปรงให้เปลี่ยน พังแล้วก็พังเลย ซื้อเครื่องใหม่โลด 








3/5
- - -







EMPTY #19 JULY 2019

1. Buytropicalife SQUALANE NATURAL (100% natural from Olive) ซื้อมานานมาก ใช้ไม่หมด คิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบน้ำมันเท่าไห...