Showing posts with label Make Up. Show all posts
Showing posts with label Make Up. Show all posts

February 17, 2014

Review : All My Loosed Powder


               เราเป็นคนชอบใช้ Loosed Powder นะ ชีวิตนี้มีแป้งตลับน้อยมาก เวลาแต่งหน้าก็ลงกันแดดแล้วตามด้วย  Loosed Powder เป็นอันจบ นาน ๆ ถึงจะใช้รองพื้นซักที ดังนั้น  Loosed Powder จึงเป็นอะไรที่สำคัญมากสำหรับเรา ส่วนตัวลองมาหลายยี่ห้อ มีที่รักและเซ็งหลายตัวอยู่ อันนี้เลือกมาเฉพาะที่ยังค้นเจอตลับอยู่นะจ๊ะ อันไหนไม่มีก็เอาไว้โอกาสหน้าค่อยจัดมารีวิวใหม่


Covermark Finishing Powder S JQ Y2 250 บาท

             ตัวนี้เพิ่งได้มาไม่นาน เพราะอยากลองเป็นการส่วนตัว ราคาก็พอไหว เค้าเตอร์ใกล้บ้านเลยจัดไปอย่างว่องไว ของยี่ห้อนี้มีรุ่นแพง เนื้อแป้งละเอียดกว่า ราคา 850 บาท ใครงบถึงก็ลองได้นะ เราเลือกเฉด Y2 มา เพราะอีกสีนึงมันส้ม ๆ ไปหน่อยเราไม่ค่อยชอบ

 

            เนื้อละเอียด ไม่วิงค์  มีกลิ่นนิดนึงพอชวนให้วิงเวียน ใครชอบงานแมต น่าจะเลิฟตัวนี้ ไม่คุมมันนะ สำหรับเรา แล้วก็ติดไม่ทนเท่าไหร่ บ่ายเหมือนจะอ็อกซิไดร์แปลงร่างเป็นสีเทานิด ๆ อันนี้ไม่ชัวน์ อาจจะคิดไปเอง แต่เราสัมผัสได้นะ ไม่ซื้อต่อแน่นอน เพราะเราชอบแบบวิงค์ ๆ 

2.5/5


Cutepress Natural Finish Loosed Powder 245 บาท

                 อันนี้ไม่นับกระปุกละ ใช้มานานมากจริง ๆ เคยเปลี่ยนใจไปหลายหนแต่ก็ต้องมาซบตัวนี้ทุกทีไป เลิฟนางนะ
                 เนื้อละเอียด ถึงจะบอกว่าโปร่งแสง แต่เนื้อนางค่อนไปทางเหลืองถึงเหลืองมาก เนื้อวิงค์เยอะและใหญ่มาก ปกปิดประมาณนึง ติดทนทั้งวัน ไม่เปลี่ยนสีระหว่างวัน แต่ไม่คุมมันเลย พอเย็น ๆ แล้วจะดูฉ่ำ ๆ นิดนึง ไม่เป็นคราบ แนะนำให้ล้างดี ๆ เพราะวิงค์นางติดทนเว่อร์ ล้างหลายรอบกว่าจะหมดไปจากหน้า 

5/5


MTI Feel Perfect Loose Powder 440 บาท

             อันนี้เป็นแป้ง Loose Powder ที่แพงที่สุดในชีวิตละ เกินงบอย่างแรง ไม่รู้ซื้อไปได้ไง แต่กระปุกใหญ่นะ ใช้ได้นาน แพคเกจฮิโซวสมราคา แต่ไม่เหมาะกับการพกพานะคะ เหมาะกับการตั้งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งประดับบารมีเกร๋ ๆ 



             เนื้อละเอียดมาก ถึงจะเครมว่าไม่มีสี แต่ทาแล้วจะอมชมพูนิด ๆ วิงค์ละเอียดโครต ทาแล้วผ่อง เด้งที่สุดในสามโลก สำหรับเราตอนบ่ายเปลี่ยนสีนะ หน้าจะหมองนิดนึง แต่ติดทน ไม่เป็นคราบ เกลี่ยง่าย ปกปิดดี คุมมันด้วย
           แนะนำสำหรับคนอันเดอร์โทนชมพู และหน้าแห้ง สำหรับเราคงไม่ซื้อต่อ

3.5/5



MTI SIGN Collection Loose Powder 240 บาท

                   เนื้อละเอียดมาก วิงค์เยอะมาก ไม่มีสี ไม่คุมมัน แต่ทาแล้วผ่องดี แนะนำให้ใช้คู่กับรองพื้น เพราะทาแล้วไม่เปลี่ยนสีระหว่างวัน และแป้งไม่ปกปิดอะไรเลย มีวิงค์กระจายแสงอย่างเดียว ไม่ทำให้รองพื้นเปลี่ยนสี เหมาะกับลุคใส ๆ แบ๊ว ๆ หรือคนผิวหน้าดีอยู่แล้ว หน้าแห้งทาได้ไม่เป็นคราบ ถ้าหมดก็จะซื้อต่อไปเรื่อย ๆ ยันเลิกผลิต
4.8/5
หักตรงหาซื้อยากไปนิด




ลองสวอชมาให้ดู

ถ้าให้เรียงตามความชอบของเรานะ 
Cutepress  >MTI SIGN Collection  >Covermark  >MTI Feel Perfect 

สภาพผิวเรา (เพื่อประกอบการตัดสินใจ) : ผิวแห้ง(มาก), อันเดอร์โทนเหลืองค่อนไปทางคล้ำ, มีรอยสิวประปราย





---



February 10, 2014

Swatch : Revlon Just Bitten Kissable Balm Stain


                  ลิปตัวนี้ออกมานานมากแล้วนะ ตอนแรกซื้อมาแค่สีเดียว แล้วก็วางดองไว้ไม่ได้ทา เวลาผ่านไปก็หยิบมาทาอีกรอบ ปรากฏว่าชอบแฮะ พอวัตสันลดราคา 1 แถม 1 ตกแท่งละ 175 บาท พี่ที่ทำงานอยากได้เลยไปถอยมาอีกแท่งเป็นเพื่อนเจ๊ ตอนนี้เลยมีสองแท่งเลยถือโอกาสมาสวอชสีให้ดู เผื่อใครตัดสินใจอยากได้บ้าง




              ตอนแรกที่อยากได้ตัวนี้ เพราะสี Darling (สีที่สองทางขวามือ) คิดว่าน่าจะเหมาะกับเรานู๊ด ๆ ดี ปรากฏว่าพอเอามาทาจริง ๆ มันว่อกแฮะ เหมือนว่าสีมันลอยและกลบสีปากไม่มิด เดินหมุนไปหมุนมาเลยได้สี honey แทน ซึ่งมันก็สดกว่าที่คิดไว้เยอะเลย เหมือนตอนลองทาที่ร้านทำไมมันงามนะ พอมาทาที่บ้านสีมันแร๊งแรง ไม่เข้าใจจริง ๆ 





                แท่งจะคล้าย ๆ ดินสอ หมุนแล้วก็กะเนื้อลิปที่ได้ประมาณ 4 เซนได้ ไม่น้อยหรอก เชื่อเรา แค่นี้ก็ทากันไปยันลูกบวชแล้ว ส่วนตัวชอบแพกเกจนะ เพราะฝาแข็งแรงดีไม่หลุดง่าย แล้วมันก็น่ารักด้วย เหมือนพกเมจิก 555




               ลองสวอชสีดูก็ได้ประมาณนี้ สีไม่เพี้ยนนะ เราปรับแล้ว คอนเฟริมฮ่ะ มาว่ากันด้วยเรื่องเนื้อลิปนะ แต่ละสีเนื้อมันก็ไม่เหมือนกันนะ ยกตัวอย่างจากที่เรามี Honey เนื้อจะครีมกว่า Rendezvous เยอะเลย ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไรเหมือนกัน เนื้อลิปเหมือนจะเป็นลิปมันที่มีมีสีเยอะกว่า  ทาแล้วไม่เมือกวาวเกินไปสำหรับเรานะ ถ้าคนชอบเนื้อแมตก็แนะนำให้ ทาแล้วซับด้วยทิชชู่สัก1 รอบ ก็ออกจากบ้านได้ ถ้าชอบเนื้อวาว ๆ ก็ทาซ้ำสักสอง 2 รอบ หรือไม่สะใจก็ปาดกรอสทับโลด

             ความติดทน : ชนะเลิศฮ่ะคุณ เช้ายันเย็น แม่เอ้ย กินข้าวยังไม่หลุดเลย ทำมาจากสีอะไรเนี่ย ขนาดรีมูฟเวอร์แปะไว้ยังไม่ค่อยจะออกเลย ใครไม่ชอบเติมระหว่างวัน จัดเลยฮ่ะ อย่าได้เสีย คุ้มแน่นอน

            กลิ่น : อันนี้ต้องพูดถึงนะ เหมือนมีกลิ่นมินต์ ๆ อยู่ ประหลาดมาก ส่วนตัวเราไม่ชอบนะ

           ข้อเสีย : ควรสครับปากก่อนใช้ เพราะถ้าปากแห้งนะคะ จะเป็นแผ่นสี ๆ คาปากเลย ดูได้จากรูปข้างล่าง


Revlon Just Bitten Kissable Balm Stain สี Rendezvous

สีนี้แรงมาก บ่องตง สีจะนีออนกว่าในรูปประมาณนึง แนะนำให้ทารอบเดียวพอ ถ้าทาเยอะจะดูสก็อยอย่างแรง


Revlon Just Bitten Kissable Balm Stain สี Honey

งามแงะอย่างแรง เป็นสีที่คิดอะไรไม่ออกก็ยกมาปาดที่ปาก 555 เป็นชมพูบัว ๆ ม่วง ๆ งามดี


อีกทริคที่เราใช้คือ ใช้ไอ้ตัวนี้แหละเป็นตัวกลบสีปากก่อน แล้วทาทับด้วยสีนู๊ด สีที่ได้ก็จะดีขึ้นนะ แล้วติดทนด้วย รูปนี้เราทาทับด้วย mauve it over สีก็จะไม่นู๊ดไป ได้เป็นนู๊ดที่สดใส ไม่หลอกมาก


                ตอนนี้มันมีตัวใหม่ออกมาแล้วนะ Revlon ColorBurst Matte Balm กับ Revlon Color Burst Lacquer Balm เล็งอยู่เหมือนกัน ลองไปปาดดูแล้วกำลังคิดว่าจะตัดสินใจซื้อรุ่น matt รอโปรดี ๆ ก่อนค่อยจัดฮ่ะ บับว่างก 555


4/5



January 02, 2014

Review : Max Factor Colour X-Pert Waterproof Eyeliner



         ตัวนี้เพื่อนสาวซื้อมาฝากจากยุโรป ของฟรี เจ๊เลยอยากมารีวิว คือจริง ๆ ฝากนางซื้อมาสคาร่า นางหาให้ไม่ได้เลยจัดตัวนี้มาแทน แล้วไม่เก็บตังค์ อ่านแล้วแลดูมีเพื่อนดี ปลิ้มมาก ๆ 


             ตอนแรกที่นังไม่แกะห่อนึกว่าเป็นปากกา ปรากฏว่าเป็นพู่กันซะงั้น แอบผิดหวังเล็ก ๆ แต่ก็ไม่กล้าบ่นมาก เพราะได้ฟรีมา ปกติเราไม่ค่อยถนัดใช้พู่กันเขียนเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่ามันบังคับยาก อีกอย่างพวกพู่กันแบบนี้จะแห้งช้า มีโอกาสเลอะสูง ซึ่งตัวนี้แห้งช้าจริงเหมือนที่คาดไว้ แห้งแล้วจะเป็นฟิลม์ ลอกได้ กันน้ำ แต่ไม่ทนเอาซะเลย



             มาดูหัวชัด ๆ กันอีกที พู่กันแบบนี้บังคับง่ายกว่าแบบที่เคยใช้นะ เลยรู้วึกชอบพูกันมันมากเลยล่ะ เขียน cat eyes ง่าย ปลายตวัดแหลมเปี๊ยวเลย แต่ช้าก่อน สำหรับคนที่จะไปซื้อ อ่านให้จบก่อนนะ เพราะว่า...


            มันไม่ดำแหละ นี่คือปาด 4 ครั้ง แล้วถึงจะดำ คือทิ้งไว้ในโต๊ะเครื่องแป้งแล้วตัวสีมันแยกชั้้นจากน้ำ เลยทำให้มีสภาพแบบที่เห็น ครั้งแรกที่ใช้ดำดีมาก แบบไม่น่าเชื่อ แต่พอทิ้งไว้อุณหภูมิห้องไม่เกิน 2 เดือนกลายเป็นแบบนี้ซะแล้ว สัณนิษฐานได้ว่าอาจจะไม่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา ร้อนเกินไป เลยตายดีกว่า หรืออีกกรณีนึงคือมันหมดอายุ 555 เพื่อนรักไปเหมาของเซลล์มาแบบหน้ามืดตามัวเลยได้ของใกล้หมดอายุมาซะงั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วอายไลเนอร์พวกนี้มันมีอายุแค่ 6 เดือนแค่นั้นแหละ ก็ต้องทิ้งแล้ว เพราะเชื้อโรคสะสมและมันจะกลายสภาพเป็นแบบนี้นั่นเอง แต่นี่แค่ 2 เดือนเองน๊า ทำไมถึงทำแบบนี้กับชั้นได้ ๆ ๆ ๆ  



ลองเทียบกับมิสทีน Mistine I am Eyeliner 


สรุป           ไม่ซื้อต่อแน่นอน เพราะหาที่ซื้อไม่ได้ 555 ไม่ใช่ละ เพราะไม่ปลิ้มค่าคุณผู้ชม หาตัวอื่นดีกว่า แต่ก็ยังคงอยากลองมาสคาร่าของยี่ห้อนี้อยู่นะ อยากได้แต่ไม่อยากพรีอ่า แบบว่ามันแพง งุงิ




2/5
---








EMPTY #19 JULY 2019

1. Buytropicalife SQUALANE NATURAL (100% natural from Olive) ซื้อมานานมาก ใช้ไม่หมด คิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบน้ำมันเท่าไห...