November 20, 2013

WTF : สิวและสิวและสิว ภาค 1

กดขยายภาพได้นะ ช็อคมากเลยล่ะ ขอบอก

                   ช่วง 2 3 เดือนมานี้เจอวิกฤติชีวิต สิวกระหน่ำมาก เกิดจากทั้งฮอร์โมนด้วย แล้วก็พักผ่อนไม่เพียงพอ แล้วก็ขึ้นอยู่ข้างเดียวด้วย ไม่เข้าใจวงจรร่างกายจริง ๆ หน้าแย่มากที่สุดในรอบหลายเดือน รู้สึกเซ็งสุด ๆ วันนี้เลยจะมารีวิวตัวยารักษาสิวที่ใช้อยู่ให้ดูกัน



         ตัวแรกที่ใช้คือของโรงพยาบาลยันฮี ซื้อมาจากเซเว่นในราคา 99 บาท กลิ่นหอมดี เนื้อจะหนักนิดนึง ทาแล้วไม่ค่อยซึมเท่าไหร่ ทาแล้วจะทิ้งความมันไว้นิดนึง ประสิทธิภาพตามราคา ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ก็ทนใช้จนหมดหลอด สิวก็ยังไม่ดีขึ้น ทยอยผุดออกมาเป็นระยะ เลยต้องเปลี่ยน ไม่รู้สิของแบบนี้ก็คงแล้วแต่คนมั้ง บางคนบอกตัวนี้นี้ดี แต่กะหน้าเรานี่ไม่ไหวจริง ๆ 


เจลแต้มสิว Smooth E Acne Hydrogel VS ครีมแต้มสิวยันฮี

            ตัวที่สองที่ใช้คือของสมูทอี ได้เป็นของแจกจากเวบวนิลาตอนเอาแต้มไปแลกของรางวัล อันนี้ราคาเต็มเกือบ 200 ได้ อันนี้ใช้ดีนะ สิวยุบดี แต่ผิวแห้งระเบิดระเบ้อ ทาแล้วซึมไวดีด้วย ประสิทธิภาพค่อนข้างดี เนื้อครีมจะเบา ๆ นิดนึงถ้าเทียบกับของยันฮี ซึ่งก็ยังไม่ถูกใจนะ และสิวก็ยังไม่หาย เดี๋ยวภาคต่อมาดูว่าเราใช้อะไรหาย




ลองถ่ายรูปเทียบเนื้อผลิตภัณฑ์ให้ดู ถ้าเทียบความชอบเราให้ สมูทอี > ยันฮี



November 12, 2013

Review : Panasonic Hair Styler EH-KA31-W หวีไดร์ผม พานาโซนิค



             ของใช้ (?) ที่เพิ่งซื้อได้ซักพักอีกตัวนึงก็คือ หวีไดร์ผมของพานาโซนิกนั่นเอง ซื้อมาก 1200 ได้มั้ง เราซื้อรุ่นเล็กมา จะมีหัวเปลี่ยน แค่ 3 หัว ถ้ารุ่นใหญ่กว่านี้ก็จะแพงไปอีก แต่เราอยากได้แค่หวีอย่างเดียว  เลยซื้อรุ่นนี้มา ถือซะว่าอีก 2 หัวเป็นของแถม คือตอนที่ไปที่พาวเวอร์บายนั้น เค้ามีรุ่นที่เป็นหัวหวีอย่างเดียวด้วย ราคา 890 บาท แต่พนักงานขายบอกว่าอันนั้นเป็นโมเดลเก่าแล้ว เอารุ่นนี้ดีกว่า เพิ่มเงินอีกนิดนึงเอง (เหรอ ?) รุ่นนี้จะเสียงเบากว่า แล้วก็ลมแรงกว่า เราเชื้อก็คนง่ายก็จัดมาแบบงง ๆ 


               ข้างกล่องโม้ว่าเสียงไดร์เบามั่ก ๆ จากที่ใช้มาก็เบาจริงนะ เบากว่าที่คิดไว้  ตัวนี้จะมีปุ่มระดับให้ 3 ระดับนะ ชอบที่มันมีลมเย็นให้ด้วย ส่วนข้อเสียของปุ่มคือ เรามือใหญ่มั้งพอหวี ๆ ไปแล้วนิ้วเลยเลื่อนไปปิดเครื่องซะงั้น คนอื่นคงไม่เป็นแหละ แต่ชั้นบ้านนอกน่ะ เลยแอบรำคาณตรงนี้เล็กน้อย น่าจะมีตัวล็อกปุ่มซักอันนะ คหสต เพราะเวลาใช้มันจะได้ไม่เลื่อนไปเลื่อนมา


มีวิธีและผลลัพธ์การใช้ของแต่ละหวีมาหลอกเราที่ข้างกล่องด้วย อั้ยย่ะ ชั้นก็เชื่อคนง่าย ใส่ถุงเลยจ๊า


           เปิดกล่องออกมาก็ไม่ใช่แบบนี้ เพราะเราเอาออกมาใช้แล้วหลายครั้ง สายไฟเลยพันกันอีรุงตุงนัง ถ้าใครเปิดมาแล้วเจอแบบนี้แสดงว่าโดนหลอกจ๊ะ ได้ของมือสองมาแน่นอน เพราะของจริงจะเรียบร้อยกว่านี้ หัวแปรงแต่ละอันจะมีถุงพลาสติดครอบมาให้อย่างดี


              ตัวเครื่องเล็ก ๆ เบา ๆ จับถนัดมือมาก ถ้าใครไม่อยากใช้หวี ก็เปิดเครื่องเป่าได้เลยนะ มันมีตะแกรงกันผมเข้าไปพันด้วย ไม่ต้องกลัว เราก็ใช้ประจำ เบาดีกว่าไดร์ทั่วไป ถนัดมือมาก ให้ความรู้สึกเหมือนเอาท่อเครื่องดูดฝุ่นมาจ่อหัว (เอ๊ะ ยังไง 555 )

                        

           ข้อต่อสายหมุ่นได้ 360 องศานะ ส่วนสายไฟไม่ยาวเท่าไหร่ประมาณเมตรกว่า ๆ ไม่น่าถึงสองเมตรนะ จากที่กะด้วยสายตาดู ตรงก้นมีตะแกรงกรองผมด้วย งานออกแบบทำได้ดีนะ ชอบ 

                    

              ปุ่มขาว ๆ นั้นคือตัวล็อกหัวหวี เวลาเปลี่ยนก็กดที่ปุ่มแล้วก็ดึงออก เวลาใส่เข้าก็หมุนหัวให้ตรงกับเข้าแล้วก็ยัดเข้าไปเลย ถ้าพอดีก็จะใส่ได้ ถ้าไม่พอดีก็จะใส่ไม่ได้ (เอ๊ะ ยังไง 555 ) ถ้าพอดีจะมีเสียงดังกริ๊กน่ะ เหมือนตัวล็อคมันเข้าที่ ใช้งานได้เลยจ๊ะ


                หัวหวีแรกเป็นอันที่ใช้บ่อยที่สุด เอาไว้หวีตอนผมหมาด ๆ อย่าหวีตอนผมเปียกนะจ๊ะ เพราะผมจะร่วงอย่างแรง เอาตอนหมาด ๆ พอ หวีแล้วผมตรงมาก ๆ ขอบอก ไม่กระเซอะกระเซิง ผมสวยงามเป็นประกาย แต่ข้อเสียคือพวกคราบต่าง ๆ มันจะมากองอยู่ตรงขอบ ๆ สีฟ้า ๆ ต้องหมั่นทำความสะอาดนิดนึง ถ้าเป็นคนมีขี้หัวเยอะอ่ะนะ เราใช้วิธีขัดด้วยแปรงสีฟัน (ที่ไม่ใช้แล้วนะจ๊ะ) แช่เดทตอลไว้สิบนาทีแล้ววางผึ่งไว้ ส่วนพวกเส้นผมก็ใช้มือดึงออกได้นะ ไม่ได้เอาออกยากขนาดนั้น


           ต่อไปเป็นหัวที่ 2 เอาไว้ทำให้ปลายผมงุ้ม ๆ แบบนางแบบ ตอนแรกนึกว่ามันจะหมุน ปรากฏมันไม่หมุนเราต้องบิดข้อมือเองซะงั้น อิชั้นก็มโนไปไกล ไอ้หัวนี้ไม่ค่อยได้ใช้ ไม่อยากปลายงุุ้มอ่ะ เคยลองนึกสนุกมาม้วนผมด้วยได้หัวหวีนี้ก็ไม่สำเร็จนะ เพราะผมเราซอยไม่เท่ากัน พอเข้าเครื่องนี้ก็เลยไม่ค่อยจะติดหวีแบบพอที่จะม้วนได้ แต่ถามว่ามันเป็นลอนไหม มันเป็นนะ แต่ต้องม้วนทิ้งไว้ประมาณเกือบนาทีแน่ะ เราขี้เกียจไง เลยไม่ค่อยได้ทำ
  

              หัวสุดท้ายเป็นแบบหนีบ ตัวนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะผมเรายาวมั้งเลยไม่เป็นลอน ความร้อนมันไม่พอน่ะ ไม่เหมือนพวกเครื่องม้วนโดยตรง แต่เอาไว้ม้วนขำ ๆ น่ะ แต่ แต่ต้องจับผมเป็นช่อเล็ก ๆ มากเลยนะ ถึงจะเป็นลอนดี ซึ่งผมดิชั้นหนาอย่างแรง เลยขี้เกียจม้วน วันไหนนึกคึกก็เอามานั่งทำ สนุกดีเหมือนกัน ลอนอยู่ได้นานด้วย


ผลการใช้ : ในราคาไม่เกิน 1200 ได้หัวมา 3 แบบก็โอเคนะคุ้มนะ เราชอบแบบที่เป็นแปรงหวีมากกว่าไดร์ธรรมดา เพราะรู้สึกว่าสะดวกดี ผมก็ตรงดีด้วย คือเราอยากผมตรงนะ แต่ไม่อยากตรงถึงขนาดใช้เครื่องหนีบ เพราะผมเราเสียจากการเปลี่ยนสีผมมา ไอ้หวีไดร์นี้ก็ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งาน มันสามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่ต้องกังวลว่าผมจะเสียหรืออะไร เพราะไม่ร้อนมากไป

ปล. เป็นผู้หญิงเนี่ย เวลาออกเดินทางไปไหน พยายามอย่าให้ผมเปียกออกจากบ้านนะ เป็นบุคลิคที่ไม่ดีเลย เราเจอประจำ พวกที่ผมหมาด ๆ แล้วมาเป่าเอาตอนนั่งรถเมย์เนี่ย ซึ่งผมมันก็จะไปพาดคนนั่งเบาะหลังน่ะ นึกออกไหม ซึ่งเราเคยโดน ผมนางยาวมาก ๆๆ ๆ ๆ พุ่งเข้าตาจมูกปากดิชั้นอย่างรุนแรง ต้องสะกิดนางให้รวบผมน่ะ แล้วนางก็ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาด้วย เวรกรรม น่าอายนะ อย่าไปทำ นอกจากบุคลิคไม่ดีแล้ว อีกเหตุผลนึงคือสกปรกด้วยนะ เราเดินทางในเมืองใหญ่ ฝุ่นละอองเยอะแยะ นึกถึงผ้าเปียกเช็ดโต๊ะกับผ้าแห้งเช็ดโต๊ะ อันไหนมันเช็ดโต๊ะแล้วผ้าสกปรกกมากกว่ากัน พอจะเห็นภาพไหม ดังนั้นเราสนับสนุนให้ทุกคนมีไดร์หรือเป่าผมให้แห้งก่อนนออกจากบ้านนะจ๊ะ ขอร้อง ทำเถอะ อย่าขี้เกียจเลย

ปล.2 โปรเจคต่อไปคือซื้อเครื่องม้วนลอน กำลังเล็งของพานาโซนิคกับเลอซาช่าอยู่ มีใครแนะนำตัวไหนไหมจ๊ะ ขอบคุณล่วงหน้าจ๊า



4.5/5
---


November 05, 2013

Review : 5 in 1 beauty care massager Nanonique แปรงขัดตัวจากฟรายเดย์



                 การที่ซิ้อแปรงตัวนี้มา เพราะอยากลองนะ ซื้อมาจากป้าแม่บ้านที่เอาแคตาล็อกมาให้ 159 บาท รอบไหนไม่รู้นานมาก อ่านแล้วเคลิ้มดี เลยลองสั่งดู ไม่ได้คาดหวังมากเท่าไหร่ เพราะว่ามันถูกเว่อร์มากอ่ะ



          ในกล่องจะมีหัวแปรง 5 แบบ ถ้าก็ตัวเครื่องมาให้ ไม่แถมถ่านนะจ๊ะ เราต้องซื้อเอง สภาพจะเยินนิดนึง ขออภัยด้วย เพราะได้มานานมากละ ก่อนจะมาถ่ายรีวิวให้ดู



         ทาด๊า เปิดกล่องมาก็จะเจอหัวแปรงเรียงอย่างสวยงาม 5 อัน จริง ๆ จะมีแผ่นพับแนะนำการใช้อีกแผ่นนึง แต่ดิชั้นทำหายไปแล้ว ค้นเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เลยมาแค่นี้แหละ


            ขนาดไม่ใหญ่นะ จับพอดีมือเลยทีเดียว พอใส่ถ่านเข้าไปก็หนักพอใช้ได้เหมือนกัน ตัวเครื่องไม่กันน้ำนะ เราเผลอตัวนึกว่าใช้ Clarisonic อยู่จ้วงเต็มที่เลย 555 ปรากฏว่าเครื่องดับคับพี่น้อง นึกว่าจะพังไปแล้วซะอีก แต่พอผึ่งให้แห้งกลับมาเปิดก็ใช้ได้เหมือนเดิม เกร๋ไหมล่ะ


               ตัวล็อกหัวแปรงข้างหลังเป็นแบบนี้นะ คล้าย ๆ กับตัว Spin Spa ที่เราเคยสั่งมาจากจีนมาใช้ หลักการทำงานก็เหมือนกันเลย   จะหมุนไปเรื่อย ๆ เหมือนมีมอเตอร์ข้างไหน แต่ตัวนี้เล็กกว่าเลยจะถนัดมือมากกว่า ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจกับการทำงานของเครื่องนี้นะ ถึงมันจะดูง่อย ๆ แต่ก็สมราคามันน่ะ เอ๊ะ ชั้นชมรึปล่าวเนี่ย



               เครื่องมีสองระดับความเร็วจ๊ะ ปกติก็ใช้เร็วสุดนะ ต่างกันนิดหน่อย แต่เร็วสุดจะสะใจมากกว่า หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะซื้อแปรงทำความสะอาดมาทำไมหลายยี่ห้อในเมื่อมี Clarisonic  อยู่แล้วนะ เอิ่ม เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน 555 ชอบซื้ออ่ะ อาบน้ำแล้วสนุกดี 


              หัวแรกเป็นหัวแปรงปกติ เวลาใช้ก็ใช้ตัวนี้แหละ ขัดบริเวณที่มันกร้าน พวกหัวเข่า ข้อพับ ก็ดีเหมือนกัน สะอาดดี แต่ต้องคอยระวังน้ำเข้าเครื่องนะ เพราะมันไม่กันน้ำ


          หัวที่ 2 เป็นหัวขัด อันนี้เอาไว้ขัดส้นเท้า แช่น้ำอุ่นสักพักแล้วเอาเครื่องนี้มาขัดก็สะใจดีพิลึก สนุกดี พวกหนังหนา ๆ ตามส้นก็ออกดีด้วย (อรั๊ย เขินจุง จริง ๆ เป็นผู้ดีมากค่ะ ส้นเสินอะไรทำให้หนาเพื่อมาลองรีวิวอีกเครื่องนี้เท่านั้นค่ะ )


หัวที่ 3 เป็นหัวนวด อันนี้ไม่เคยใช้แฮะ ไม่รู้จะนวดตรงไหน เลยวางกองไว้อย่างนั้นแหละ 555


          หัวที่ 4 เป็นหัวฟองน้ำ ไม่รู้เอาไว้ทำอะไรเหมือนกัน เลยลองไปลองรองพื้น นึกว่าจะเหมือนพวกเครื่องลงรองพื้นไรงี้ กะหน้าเนียน เกร๋ ๆ ปรากฏว่าฟองน้ำล้างไม่ออกค่ะ ลองแช่สบู่ ผงซักฟอง ลองทุกทางแล้วก็ไม่ออกอยู่ดี เลยไม่รู้ทำยังไงกับมัน 555 ปวดหัวมากเลย


          หัวที่ 5 เป็นหัวฟองน้ำเหมือนแบบที่เอาไว้ล้างจาน เนื้อจะบางกว่าตัวข้างบนนิดนึง เห็นเค้าว่าเอาไว้ทำความสะอาดรอบดวงตา แต่ก็ยังไม่ได้ลองนะ กลัวเหมือนหัวแปรงข้างบน 555 บ้าจริง ๆเลย ซื้ออะไรมาก็ใช้ไม่เป็นซักอย่าง ไม่เข้าใจว่าจะซื้อมาทำไมเหมือนกัน


 ผลการใช้งาน :  ส่วนตัวเราชอบนะ ดีกว่า SPIN SPA อีก เพราะมันเล็กและเบากว่าเลยคอนโทรลได้ง่าย ถึงแม้จะไม่กันน้ำแต่ถ้าเราใช้แบบระวังก็ไม่พังนะ เราใช้มาเกือบ 2 เดือนแล้ว คุ้มค่ามาก ๆ กับเงิน 159 บาท ทีเสียไป (ไม่รวมค่าถ่านชาร์จ 2 ก้อน อีก 230 นะ) ถ้าใครอยากหาแปรงพวกนี้ใช้นะ ตัวนี้เราแนะนำเลย แต่อาจจะไม่เหมาะกับหน้าเท่าไหร่ หัวแปรงมันไม่อ่อนโยนขนาดนั้น ถ้าใช้กับตัวก็จะดีนะพวกสิวที่หลังหรือจุดหยาบกร้านต่าง ๆ ใช้ตัวนี้คู่กับการสครับผิว ค่อนข้างเห็นผลดีทีเดียว คหสต เราคิดว่าพวกเครื่องที่เป็นระบบหมุนระบบการทำงานไม่ต่างกันหรอก เทคโนโลยีคือกัน ที่ต่างกันก็แค่หัวแปรง หรือระบบกันน้ำเท่านั้นแหละ 

ข้อเสีย : ที่คิดได้ ณ ตอนนี้ คือมันไม่มีหัวแปรงให้เปลี่ยน พังแล้วก็พังเลย ซื้อเครื่องใหม่โลด 








3/5
- - -







October 30, 2013

Review : Mistine Hydra Care Moisturizing Lotion มิสทีน ไฮดร้า แคร์ มอยส์เจอร์ไรซิ่ง เฟเชี่ยล โลชั่น VS ฮาดะลาโบะ




            บล็อกนี้ยังคงรีวิวแต่มิสทีนต่อไป 555 ชิ้นนี้ได้มาตอนรอบ 22 ราคาโปร 129 แถมที่ขูดสิวเสี้ยน รู้สึกคุ้มเว่อร์เลยจัดมาด้วยความรวดเร็ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าก็อบยี่ห้อไหน ฮาดะลาโบะแน่นอนที่สุด  คือส่วนตัวเราว่ามิสทีนทำเครื่องสำอางค์ดีนะ สกินแคร์ก็โอเค แต่ทำไมต้องก็อบชาวบ้านมาเรื่อยเลย บางครั้งก็แพคเก็จ บางครั้งก็สูตร จริง ๆ แล้วถ้ามิสทีนเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้จะเป็นบริษัทที่รวยโครต ๆ แน่นอน อยากให้ประเทศไทยมีแบรนด์เครื่องสำอางค์ที่เชิดหน้าชูตาบ้าง เหมือนเราไปเกาหลีก็เหมาอีตูดี้ สกินฟูดส์ อยากให้คนมาเที่ยวเมืองไทยก็ต้องมาเหมามิสทีนกลับบ้านทีละเยอะ ๆ บ้างน่ะ เข้าใจมะ


 

            ส่วนผสมข้างกล่อง เผื่อใครแพ้อะไร เอามาเทียบกะฮาดะด้วยเอ้า สำหรับเราข้อแตกต่างที่เราพอจะสังเกตได้คือฮาดะผสมพาราเบนเป็นวัตถุกันเสีย ถ้าใครรู้ตัวว่าแพ้ควรหลีกเลี่ยง ส่วนของมิสทีนเลือกใช้ Phenoxyethanol เป็นวัตถุกันเสียแทน ซึ่งเค้าว่ากันว่าเป้นตัวที่ปลอดภัยที่สุดไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง ส่วนตัวให้คะแนนมิสทีนนำไปในข้อนี้นะจ๊ะ เพราะแลดูลงทุนกว่าหน่อยนึงไม่ใช้สารกันเสียราคาถูกมาให้ (จะดูรูปใหญ่เพื่ออ่านส่วนผสมคลิ๊กที่รูปเหมือนเดิมนะ)


           ถ้าพูดเรื่องความคุ้มค่าแล้วมิสทีนก็ได้คะแนนมากกว่าเห็น ๆ 60 มิล 129 ส่วนฮาดะ 90 มิล 320 (ราคาปกติอ่านะ เคยแลกซื้อได้ 90 มิล 160 ไง แต่อันนั้นไม่นับละกัน เอาเป็นราคาปกติมาสู้กันละกันนะ 555 ) เรื่องแพกเกจเรายังชอบฮาดะมากกว่านะ มันเป็นฝาปิดได้เลยไม่ต้องหมุน ๆ แบบมิสทีน มันสะดวกใช้ดี อีกอย่างมิสทีนบอกผสมวิตามินซี แต่ดันทำขวดมาซะใสแจ๋วเลย แล้ววิตามินซีจะไม่หมดสภาพเหรอวะคะ เหมือนเคยอ่านมาว่าวิตามินซีโดนแสงมากไม่ได้มันจะเสื่อมสภาพ (เหรอ?) 



           ส่วนเรื่องเนื้อผลิตภัณฑ์ของฮาดะจะเหนียวกว่าหน่อยนึง ทาแล้วซึมลงไปไวทั้งคู่ แต่ของฮาดะมันจะให้ความรู้สึกชุ่มชื่นกว่า มีคนบอกว่ามันคือ ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำ + hyaluronic acid + วัดถุกันเสีย เอิ่มอ่านเสร็จแล้วรู้สึกอยากเขวี้ยงทิ้งให้หมด 555 ลองไปอ่านที่เวบนี้เพิ่มเอาละกันนะ ตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ของมิสทีนจริงจังรออีกซักพักจะมีริวิวผลการใช้ละกันนะ เพราะกะว่าให้ฮาดะขวดนี้หมดก่อนค่อยใช้ของมิสทีนต่อ 


ปล.เราคิดว่าจะไม่ซื้อฮาดะต่อแล้วล่ะหลังจากรู้ว่าใส่พาราเบน 




3.5/5
---



October 26, 2013

Review : Mistine Aqua Base Sunscreen facial cream SPF50PA+++ ครีมกันแดดมิสทีน อะควา เบส ซันสกรีน เฟเชี่ยล ครีม เอสพีเอฟ 50 พีเอ+++


              เป็นกันแดดที่ซื้อเป็นหลอดที่ 3 ในรอบปี ชอบเนื้อสัมผัสมันมากเหมือนของบิโอเรแต่เบากว่า ทาแล้วไม่มีสี แต่จะหน้าชุ่มชื่นนิดนึง สำหรับเราเราว่าไม่มันนะ แต่หน้าจะชุ่ม ๆ บอกไม่ถูก เราหน้าแห้งมั้ง


             เนื้อเป็นครีม ๆ เบา ๆ ทาแล้วซึมไปเลย ไม่ว่อก ไม่ขาวไม่เป็นคราบ ปลาบปลิ้มที่สุด ใช้แล้วสิวไม่ขึ้นด้วยละเออ


ถ่ายส่วนผสมมาให้เผื่อมีใครสนใจ แต่กลัวแพ้ กดที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่เหมือนเดิมจ๊า


               เพิ่งเห็นว่าส่วนผสม มีผสมสารกันเสียพาราเบนตั้ง 5 ตัวแน่ะ 555 เวรกรรมของชั้น เลิกใช้ตอนนี้ทันไหมอ่ะ กลัวเป็นมะเร็งจัง 


ปล.ลองอ่านบทความนี้ดูนะ เผื่อใครไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงต้องระวังเรื่องสารพาราเบนในเครื่องสำอางค์ 


4.5/5
---






October 23, 2013

Review : Mistine X-Clear Black Head Stick มิสทีน เอ็กซ์-เคลียร์ แบล็ค เฮด สติ๊ก


                          ชิ้นนี้ไม่ได้ซื้อมาหรอกนะ ได้แถมมาจากมิสทีนไฮดร้าที่ออกใหม่ ตัวนี้ออกมานานมากแล้ว แบบว่าเป็นอะไรที่เล็งมานาน ด้วยความสงสัยว่ามันจะดีไหม แต่ก็ไม่กล้าเสียเงินซื้อไง เพราะกลัวจะเสียดายตังค์ 555 พอเห็นโปรแถมกับมิสทีนไฮดร้าเลยจัดมา เพื่ออะไรก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะไฮดร้าราคา 129 แต่ไอ้ตัวนี้ราคาไม่ถึง 30 บาท ถ้าซื้อเดี๋ยว ๆ ก็ถูกจะตาย แต่ทำไมต้องลงทุนซื้อให้ไฮดร้าเพื่อให้ได้แถมตัวนี้ โอ้ย ชะนีเป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากมาก ๆ 


              ถ่ายวิธีใช้มาด้วย อ่านแล้วเคลิ้มมาก แบบว่าเอาแท่ง ๆ ถูไปมาแล้วสิวเสี้ยนก็จะออกมาเหรอ กรี๊ด รวดเร็วมาก ๆ ชั้นก็เชื่อคนง่ายมาก อ่านเสร็จก็นั่งปลื้มอกปลื้มใจ รอเวลาเลิกงานจะได้พุ่งไปลองใช้ 555 จริง ๆ ถ่ายเนื้อผลิตภัณฑ์มาด้วยนะ แต่รูปมันเบลอเลยไม่เอาลงดีกว่า 


ส่วนผสมด้วยเผื่อใครแพ้ตัวไหนจะได้ไม่ซื้อมาใช้


             ถึงบ้านก็แกะกล่องใช้ทันที แบบมือไม้สั่น 555 ทำตามเค้าบอกเป๊ะ สรุปคือ เจ๊เจ็บมาก และสิวเสี้ยนก็ไม่ออกด้วย กรี๊ดดดดดด เพื่ออะไรเนี่ย จมูกแดงเลยเห็นมะ ชิชะ แต่มันก็มันส์ดีนะตอนถูอ่ะ ยังคงคิดเข้าข้างตัวเองว่าต้องใช้ประจำมากกว่า มันถึงจะเห็นผลระยะยาว (เหรอ?) 


0.5/5
---


October 19, 2013

What's New ? : October's New Items


                 อันนี้ซื้อจากอีฟแอนด์บอย ขนาดทดลอง 39 บาทมั้ง อยากลองมานานละ กลัวแพ้เลยไม่กล้าจัดหลอดใหญ่ ชอบที่ในหลอดมีฟอยด์ปิดมาให้ด้วย รู้สึกปลอดภัยดี


           ปกติเราใช้ Ash brown แต่รอบนี้มันเซลล์ 300 บาท และ 1 แถม 1 มีสติกเกอร์ลดอีก 30 บาท สรุปคือซื้อ 2 กล่องในราคา 270 บ้าไปแล้ว เป็นโปรที่แม้จะไม่มีสีที่ต้องการก็อยากซื้อเก็บไว้ ถูกเว่อร์มาก ๆ 


          อันนี้เป็นของที่ซื้อจากมิสทีน รอบ 22 จากเจ๊จู ทั้งหมดนี้ 290 บาท เพื่อที่จะแลกชาม 555 รีวิวจะทยอยตามมานะจ๊ะ 


            ซื้อข้างบนแล้วมาแลกชาม 5 ใบ ในราคา 59 บาท บ้าไปแล้ว ทำเพื่ออะไรเนี่ย แต่มันสวยดีอ่ะ อดใจไม่ไหว


           ที่ม้วนผมแบบแกนโฟมที่เค้าฮิตกัน ซึ่งอิชั้นทำไม่ได้ ผมไม่หยิกเลย ไม่อยู่ทรงใด ๆ ทั้งปวง จนหมดปัญญา ตอนนี้นอนกองอยู่ใต้โต๊ะ ซื้อมา 2 อัน 40 รู้สึกแพงมาก แต่ตอนนั้นหน้ามืดไง 555 ทำไมชั้นถึงทำไม่ได้นะไม่เข้าจาย


            หัวแปรง clarisonic หัวที่ 3 ตั้งแต่ซื้อเครื่องมา ซื้อแบบ sensitive ดีกว่า รอบที่แล้วใช้ delicate ไม่สะเทือนหน้าเล้ย เลยต้องมาตายรังที่แปรงแบบเดิม ร้านเดี่ยวกับที่เคยสั่งแปรงนั้นแล ราคาหัวแปรงประมาณ 790 ร้านแถมแผ่นอะไรซักอย่างมาให้ ไม่รู้ว่าคืออะไรเลยกองไว้ตรงนั้นแหละ 555




October 16, 2013

Review : Mistine Q Perfect Lip Scrub : มิสทีน คิว เพอร์เฟ็ค ลิปสครับ





             หายไปนานมาก ขออภัยจริง ๆ เดินทางตลอดเลย ชีวิตมันโหดร้าย ไม่ค่อยมีเวลาช๊อปเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ที่ทำงานมีป้าแม่บ้านของแคตาล็อคมิสทีนมาขาย เลยช็อปซะสะใจเลยทีเดียว ซื้อมาหลายบาทเพราะอยากไปแลกชาม 555 ไร้สาระมากเลย ตอนแรกตั้งใจซื้ออันเดียวแท้ ๆ ดังนั้นต่อไปบล็อกนี้จะรีวิวแต่ของมิสทีนไปอีกตลอด 1 เดือน 555 (อันนั้นก็เว่อร์ปาย)



           อันนึงที่ซื้อมาก็คือลิปสครัป Mistine Q Perfect Lip Scrub นั้นแล ราคาประมาณ 59 บาทได้มั้ง ถ้าจำไม่ผิด ถูกใจมากมาย ใช้ดีจริง ๆ นะ ปกติก็ใช้สครัปทำเองเป็นวาสลีนผสมน้ำผึ้งผสมน้ำตาลทรายตลอด แต่เพิ่งหมดไปแล้วก็เลยขี้เกียจกวน เห็นตัวนี้ออกใหม่เลยจัดไป เนื้อจะเป็นครีม ๆ เนื้อไม่หยาบมาก แต่กลิ่นหอมโครต ๆ วิธีใช้ก็ปาดไปที่ปาก วนไปวนมา แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด




          ถ่ายรูปส่วนผสมมาให้ดูเผื่อมีใครแพ้จะได้หลีกเลี่ยง ดูภาพใหญ่กดไปที่รูปโลด เราชอบแพคเก็จนะ ดูแข็งแรงดี คำบรรยายก็ดูจริงใจดี ไม่ค่อยขี้โม้ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย ถ้าเทียบกับสครัปที่ทำเอง ถามว่ามีอะไรต่างไหม หรือดีกว่าไหม ก็คงไม่นะ ก็คือ ๆ กัน เพียงแต่อันนี้มันสะดวกพกพามากกว่าแค่นั้น อาจจะซื้ออีกรอบนะถ้ามีให้แลกชามอีก 555 (ไม่ใช่ละเมิงงงงง)

         แนะนำสำหรับคนที่ไม่ค่อยสครัปปากนะ ผู้หญิงเราควรจะทำบ่อย ๆ นะ ไม่งั้นมุมปากที่เราสัมผัสกับยาสีฟันจะดำ บางครั้งลิปที่เราทามันตกค้างอยู่ที่ปากก็ขัดมันออกบ้าง แล้วก็หลังสครัปก็ต้องหมั่นทาลิปกันแดดด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวปากดำกว่าเดิม อีกทริกนึงคือทาวาสลีนก่อนแปรงฟังเอาให้ทั่ว ๆ เลย เวลาแปรงฟันจะได้ไม่กัดปากจ๊า เราทำประจำ เมื่อก่อนปากดำจริง ๆ เดี๋ยวนี้ดีขึ้นมากเลย

           มีรูปวิธีใช้มาให้ด้วยละเออ แล้วก็อย่ามาก็อบไปใช้ในเว็บไหนล่ะ โดยเฉพาะเว็บขายของ ไม่ให้นะเออ อย่าให้รู้เจ๊จะฟ้องให้แหลกเลย จะเอาไปใช้ก็บอกกันก่อนอย่ามาทำเนียน


กรุณามองข้ามหนวดดิชั้นไปนะเค๊อะ ใช้ดีมากเลย เสร็จแล้วปากนุ่มถูกใจมั่ก ๆ เป็นอีกชิ้นที่แนะนำให้ซื้อ ของดีราคาถูกน่าสนับสนุน





4.5/5
---

EMPTY #19 JULY 2019

1. Buytropicalife SQUALANE NATURAL (100% natural from Olive) ซื้อมานานมาก ใช้ไม่หมด คิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบน้ำมันเท่าไห...