March 24, 2014

ETC : The Clarisonic : DOs & DON'Ts


               บทความแรกของบล็อกนี้ คือ กระทู้เห่อ Clarisonic ซึ่งเราก็ใช้มาเกือบ 2 ปีแล้วสินะ เวลาผ่านไปไวมาก ๆ เลย ต้องยอมรับว่าไอ้เครื่องนี้มันเปลี่ยนวิถีชีวิตการล้างหน้าของเราจริง ๆ แล้วก็สภาพหนังหน้าที่ดีขึ้นมาก ๆ ถ้ายังมีคนถามว่าควรซื้อไหม ใช้แล้วได้ผลรึปล่าว เราก็ยืนยันคำเดิมนะว่าซื้อเหอะ เป็นเครื่องมือที่เจ๋งจริง ๆ 4000 น่ะไม่แพงหรอก ถ้าเทียบกับค่ายารักษาสิวที่ต้องเสียไป

               เพื่อเป็นการขอบคุณไอ้เครื่องนี่ ดังนั้นวันนี้เราจะมาเขียนบล็อกแนะนำการใช้งานที่มาจากประสบการณ์ของเรา อาจจะไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการนัก แต่คอนเฟริมว่าใช้กับเราแล้วโอเคมาก ๆ เลย

DOs

1. ควรล้างหน้าจากด้านล้างขึ้นบน หมายความถึงว่าลำดับการล้างหน้าของคุณควรจะเป็น คาง>แก้ม 2 ข้าง>จมูก> หน้าผาก เพราะถ้าเริ่มจากหน้าผากก่อนมันจะย้อยจนแสบตาไปหมดเลยล่ะ

2. ควรใช้กับโฟมไม่มีฟอง หรือโฟมที่มีฟองน้อย  เนื่องจากว่ามันไหลเข้าตานี่แหละ จึงแนะนำให้ใช้โฟมฟองน้อยหรือไม่มีฟอง เพราะมันจะกับอาการเยิ้มย้อยได้ส่วนหนึ่ง และก็ประสิทธิภาพการทำความสะอาดของมันแรงอยู่แล้ว ถ้าใช้กับโฟมที่แรงมาก ๆ บางครั้งเราพบว่าหน้าจะแห้งเกินไป

หมายเหตุ ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้คู่กับเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าได้ผล ได้แก่ สบู่ฮาโรเกต โฟมของโปรวาเมต (สีฟ้า) สบู่ดอกเตอร์สมชาย โฟมไม่มีฟองของสมูทอี เซตาฟิล (หรือใช้กับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่ผสมสี เราเคยใช้กะสบู่ฮาโรเกตสีเหลือง บอกเลยว่าหัวแปรงเหลืองอ๋อยฮ่ะ ล้างออกลำบากมาก ) 

3.ควรใช้แค่วันละ 1 ครั้ง แนะนำให้ใช้เฉพาะตอนเย็น
คหสต เราคิดว่ามันมากไปสำหรับหน้าคนเรา ซึ่งตอนกลางคืนเราก็คงไม่ได้ละเมอไปอาร์ซีเอ หรือตกระกำลำบากที่ไหน เช้าล้างหน้าแค่สบู่เบา ๆ ก็พอแล้ว อย่ารบกวนหน้ามากไป ปสก ของเราคือมีช่วงนึงใช้ทั้งเช้าและเย็น แล้วต้องออกไซต์ต่างจังหวัดกระทันหัน ปรากฏว่าโดนแดดแล้วแสบหน้ามาก หลังจากนั้นจึงใช้แค่เย็นหลังล้างเครื่องสำอางค์หมดแล้วแทน เพื่อความสะอาดอย่างหมดจด

4. ควรเปลี่ยนหัวแปรง 3 หรือ 6 เดือนต่อครั้ง
ถ้ารวยควรเปลี่ยนทุก 3 เดือนเพื่ออนามัยที่ดี แต่เราไม่ค่อยมีเงิน 555 จึงเปลี่ยน 6 เดือนต่อ 1 ครั้ง อีกอย่างเราใช้แค่ตอนก่อนนอนเท่านั้น จึงมโนเอาว่ามันก็เท่ากับใช้ครึ่งนึงของระยะการใช้งานปกติ ว่ากันตามตรงนะหัวแปรงใหม่ ๆ มันเลิศมากจริง ๆ แหละ ทั้งนุ่มและฟู ใช้ไปนานแล้วมันจะแข็ง ๆ นิดนึง ดังนั้นอย่ามโนว่าซื้อเครื่องครั้งเดียวแล้วจบ เชื้อโรคสะสมหัวแปรงเป็นสิวหนักกว่าเดิมจ๊ะ ซึ่งถ้าจนแบบเราก็อ่านทริกที่จะยืดอายุการใช้งานหัวแปรงให้ใช้ได้ 6 เดือนที่ข้อต่อไปเลยจ๊ะ  

5. ควรทำความสะอาดหัวแปรงอย่างสม่ำเสมอ

- หลังจากเราล้างหน้าเสร็จแล้วให้หันหัวแปรงเข้าเครื่องแล้วหมุนให้หัวแปรงสแคชกับหัวเครื่อง ซึ่งจะช่วยให้ขนแปรงฟูแล้วหัวเครื่องที่เป็นซอก ๆ ก็จะสะอาดเอี่ยมอ่องอยู่เสมอ ลดการสะสมของคราบสบู่ด้วยฮ่ะ วิธีนี้ทำให้ขนแปรงใช้ได้นานขึ้นประมาณนึงเลยแหละ แล้วอย่าลืมเอาผ้าซับให้หมาด ๆ ด้วย เพื่อช่วยให้มันแห้งไวขึ้น   (ตามรูปประกอบ)                                                                                                                                       

- ทุกอาทิตย์จะแช่หัวแปรงกับเดทตอลหรือสบู่ที่ผสมสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แล้วตากแดดให้แห้ง ไม่ว่ายังไงก็ห้ามละเลยขั้นตอนนี้เด็ดขาด ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เนื่องจากเวลาเราทิ้งหัวแปรงไว้ในห้องน้ำตลอดทั้งอาทิตย์ มันจะสะสมเชื้อโรค จะเป็นบ่อเกิดของสิวในอนาคต คิดจะสวยอย่าขี้เกียจ

6. หัวแปรงจะมี 2 ส่วน สามารถแยกใช้ได้
การทำงานของ Clarisonic ส่วนแปรงที่สั่นจริง ๆ คือแปรงชั้นใน ใช้นอกเป็นแค่ตัวที่กันการหยดย้อยเท่านั้นแหละ ถ้าเราอยากจะทำความสะอาดในส่วนที่เล็ก ๆ  เช่น ซอกจมูก ที่รู้สึกว่าแยงเข้าไปทั้งอันหัวมันใหญ่ไป ก็แยกหัวออกมาได้ ให้ระวังการกระเด็นกระดอนของโฟมสักนิดก็พอ




7. ไฟกระพริบที่แจ้งว่าแบตหมด จะเตือน 3 ครั้งก่อนแบตหมดจริง ๆ (Mia 1)
ถ้ายังไม่สะดวกชาร์ตก็ยังสามารถใช้ต่อได้ ไม่ต้องตื่นเต้นไป ถ้าแบตหมดแนะนำให้ชาร์ตตอนกลางคืนเลย แล้วแบตจะเต็มประมาณเย็น ๆ ของอีกวัน เราก็จะมารถใช้ Clarisonic ได้ทุกวันไม่เว้นแม้แบตหมด ถ้าชาร์ตเช้าไม่ทันใช้นะคะ ถ้าไม่กลับบ้านดึก เคยชาร์ต 7 โมงเช้าปรากฏว่าไปเต็มเกือบเที่ยงคืน วันนั้นเลยไม่ได้ใช้เลย  

8. เวลาพกเดินทางไปไหน ให้ทำหัวแปรงให้แห้งก่อนเสมอ
เพราะมันจะสะสมแบคทีเรียนะ ระวังเรื่องความสะอาดให้มาก ๆ รุ่น Mia 2  จะมีเหมือนกล่องเก็บไม่ให้แปรงเราไปโดนอะไรก็ตาม แต่การที่ทิ้งมันให้เปียกอบ ๆ อยู่ในกล่องเป็นเวลานานก็ทำให้มีแบคทีเรียนะ ยิ่งล้างสบู่ออกไม่หมดนะ พอเปิดกล่องออกมาทีกลิ่นแบบสะพรึงมากฮ่ะ แต่ถ้ารุ่น Mia 1 จะเป็นฝาครอบมีรู ๆ ไว้ให้ระบายอากาศแทน ซึ่งก็ไม่ได้หรอก เพราะถ้าเราใส่หัวแปรงชิ้น ๆ ลงไปก็ยิ่งสะสมเชื้อโรค แบบว่าเราโรคจิตน่ะ ข้อนี้ไม่ต้องใส่ใจมากก็ได้นะ 555 



DON'Ts

1. ไม่ควรวาง Clarisonic ไว้ในที่หมิ่นเหม่กับการตก 
เราเคยตกมาแล้วถึง 2 ครั้ง คว้าไม่ทัน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการอะไร ปกติดีทุกอย่าง แต่ก็เสียวแว๊บเหมือนกัน เพราะระบบแบตเตอรี่ก็อยู่ในเครื่องหมด ดังนั้นระวังให้มาก ล้างหน้าเสร็จให้เอา Clarisonic ทิ้งไว้ในอ่างเลย ล้างมือให้หายลื่นแล้วค่อยจับ อีกรอบ อย่าประมาท อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ฮ่ะ เตือนด้วยความหวังดี เพราะเราเคยลื่นหลุดมือมาแล้ว

2. ตัวเครื่อง Clarisonic ไม่ควรแช่เดตตอลทิ้งไว้นานเกินไป 
ถึงแม้อยากจะฆ่าเชื่อโรค แต่เดตตอลทำให้ Clarisonic ดิชั้นสีด่างค่ะคุณ รีบล้างอย่าแช่ไว้ อย่ามาโง่มาอิชั้นนะคะ ตอนนี้จับไปก็ช้ำใจมาก สีกระดำกระด่างอย่างแรง

3. ไม่ควรใช้ Clarisonic บริเวณรอบหรือใกล้ดวงตา
เกือบแอดมิทมาแล้วนะคะคุณ อันตรายมากบอกเลย เนื่องจากเมาเลยทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูสโมกกี้อายใหญ่เลย อารมณ์ขี้เกียจ เรื้อน ปรากฏเส้นเลือดฝอยในตาแตกฮ่ะ ตอนแรกก็นึกว่าตาแดง หยอดตาเท่าไหร่ก็ไม่หาย แล้วเสือกแพ้ยาหยอดตาอีก แอดมิทหมดไปเป็นหมื่นเลยค่ะคุณ พอออกจากโรงพยาบาลเลยนึกขึ้นได้ว่าเพราะไอ้เครื่องนี่เอง เกือบซวยแล้วไหมล่ะ อันนี้มีเตือนไว้ในคู่มือนะ ข้อนี้สำคัญมาก ๆ อย่าคิดลองเด็ดขาดต้องระมัดระวังให้มาก ๆ เลย

4. ไม่ควรใช้ Clarisonic กับผลิตภัณฑ์ประเภทสครับ หรือโฟมที่มีเม็ดบีทผสม
อันนี้จริงจังนะ หน้าแหกได้จริง ๆ เวลาที่เราใช้ไอ้เครื่องนี่ไปสักพักจะรู้สึกคุ้นชินกับความแรงของมัน คนมักจะเกิดไอเดียแปลก ๆ เช่นลองใช้โฟมที่มีสครับดีกว่าเผื่อจะดีขึ้นอีกงั้นงี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรด้วยประการทั้งปวง เพราะมันจะเร่งปฏิกิริยาให้ขัดหน้าเรายิ่งขึ้นไปใหญ่ จนทำให้หน้าแดง และอาจเกิดผื่นแพ้ได้ 

5. ไม่ควรทำความสะอาดหัวแปรง  Clarisonic ด้วยแอลกอฮอร์
อย่าโรคจิตรักความสะอาดมากจนถึงขนาดเอาแอลกอฮอล์ราดหัวแปรงเลยค่ะ นอกจากจะเปลืองแล้ว จะทำให้หัวแปรงมีอายุการใช้งานสั้นด้วยค่ะ เพราะมันจะแห้งกรอบและแข็ง อ่านมาถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่า เอิ่มแล้วชั้นจะทำความสะอาดมันกับอะไรคะถ้าไม่ใช้แอลกอฮอล์ แนะนำให้ให้ใช้สบู่เหลวล้างมือที่มีสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ผสมหรือไม่ผสมเดตตอลก็ได้ตามแต่สะดวก จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ขนแปรงจะยังนุ่มไม่แข็งตัวก่อนอายุการใช้งานของมันค่ะ

6. เวลาใช้ไม่ควรกดลงที่ใบหน้าแรงเกินไป
เอาจริง ๆ นะคนเราตอนใช้ใหม่ ๆ ก็จะกะน้ำหนักมือไม่ถูกว่าควรจะมากน้อยแค่ไหน แต่อยากให้จำไว้อย่างนึงว่าระบบแปรงเป็นระบบสั่น ดังนั้นถ้าคุณกดแรงก็จะยิ่งมีความเสียดสีกับใบหน้ามาก หัวแปรงที่ควรจะสั่นมากก็จะไม่สั่นตามแรงของมันปกติ ไม่รู็ว่าจะอธิบายให้เห็นภาพแบบไหนดี คือเหมือนว่าเราเปิดให้มือถือเราสั่น ถ้าเราวางให้มันสั่นบนโต๊ะ จะสังเกตเห็นได้ว่ามันจะสั่นแรงจนบางครั้งมันตกโต๊ะเลยก็มี แต่ในทางกลับกันถ้าเราใส่มันไว้ในกระเป๋าที่มีของกดทับมันก็จะไม่สั่นมากจนเรารู้สึกได้ว่ามีคนโทรเข้ามา ดังนั้นเวลาเราใช้แปรงจึงไม่ควรกดกับหน้าแรง ๆ แค่สัมผัสเบา ๆ แล้วหมุนไปเรื่อย ๆ ก็จะทำงานได้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า





คำถามอื่น ๆ ที่พบบ่อย

1. ควรล้างเครื่องสำอางค์ก่อนใช้ Clarisonic ไหม
ตอบ ควรค่ะ เพราะรองพื้นที่ติดอยู่ใน Clarisonic เป็นอะไรที่ทำความสะอาดยากมาก บอกเลย 

2. ใช้ Clarisonic แล้วจะไม่มีสิวขึ้นเลยใช่ไหมคะ
ตอบ ไม่ค่ะ ปัจจัยการเกิดสิวมันเยอะมากค่ะ อันนี้เป็นแค่ตัวช่วยเท่านั้น อย่ามโนว่าเป็นอุปกรณ์วิเศษอะไรมาก มันแค่ช่วยให้ล้างหน้าสะอาดมากขึ้นเท่านั้น

3. สิวอักเสบเยอะมาก จะใช้เครื่องนี้ได้ไหม
ตอบ ได้ก็แต่เมื่อสิวอักเสบยุบลงประมาณนึงแล้วเท่านั้น ถึง Clarisonic จะมีแปรงทีสำหรับคนเป็นสิวก็เถอะ แต่เชื่อเราเถอะว่ามันไม่เหมาะกับคนมีสิวอักเสบหรอก เวลาที่เรามีสิวอักเสบเม็ดใหญ่ ๆ  ส่วนใหญ่จะเว้นตรงนั้นไว้เลยแหละ เพราะเคยลองแล้ว แหกมาแล้ว เชื่อป้าเถอะหลาน ๆ เอ้ย

4. Clarisonic เทียบกับ ยี่ห้อ........ และยี่ห้อ .......... และยี่ห้อ........... อันไหนดีกว่ากันคะ
ตอบ ไปอ่านบล็อกอื่นเทียบเอาเองเหอะ ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยใช้ค่ะ เคยใช้แต่ Clarisonic อย่างเดียวเอง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

5. ซื้อ Clarisonic ร้านไหนดีคะ
ตอบ แล้วแต่ท่านละกัน มีเป็นสิบร้านเลย ถูกจริตแม่ค้าร้านไหนก็จัดเลย ราคาไม่หนีกันมากหรอก พังก็โยนทิ้งเหมือนกัน เพราะไม่มีศูนย์ซ่อมในไทย ภาวนาให้มีชอปมาเปิดซะทีเหอะ จะได้ซื้อได้อย่างสบายใจ





หน้านี้จะอัพเรื่อย ๆ นะ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมหรือแก้ไข มีประสบการณ์อะไรอยากแชร์ก็บอกได้เลย จะได้เขียนให้คนที่ซื้อเครื่องมาแล้วใช้ไม่เป็นได้รู้ไว้




แถม : มาแจ้งข่าวสำหรับสาวก Clarisonic นะคะ ตอนนี้เค้าออกรุ่นลิมิเตตมา เป็นรุ่นดิสโก้ค่ะคุณ (Hollywood Lights Collection) กระเทยมาก ๆ อยากจิได้มาครอบครอง แหม ถ้าปิดไฟอาบน้ำแล้วเปิดเพลงเต้นในห้องน้ำนะคะคุณ มันจะเจิดจรัสมากค่ะ อยากได้ ๆ ๆ ๆ มี 3 สีให้เลือกครอบครอง ม่วง (Screen Siren) เขียว (Starlet) ชมพู (Super Star) ไม่เคยอยากได้ Mia 2 เลยจนกระทั่งบัดนี้ฮ่ะ บอกเลย







ปล. จะว่าไปนะ ตอนนี้กำลังอยากลองเครื่อง Foreo Luna มากเลยล่ะ เห็นในยูทูปอวยกันว่ามันเริ่ดกว่า Clarisonic อย่างแรงนิ กิเลสมาปรี๊ด ๆ เลย เค้าขายตัวมินิราคา 139 เหรียญ ราคาก็ประมาณเดียวกับ mia 1 เลยนะ แต่ตัวนี้ไม่ต้องเปลี่ยนหัวแปรง แล้วก็หลักการทำงานคล้ายคลึงกับ Clarisonic มาก ๆ (ถ้าถูกหวยจะลองสั่งมาเล่นดู กิกิ)



No comments:

Post a Comment

EMPTY #19 JULY 2019

1. Buytropicalife SQUALANE NATURAL (100% natural from Olive) ซื้อมานานมาก ใช้ไม่หมด คิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับผลิตภัณฑ์แบบน้ำมันเท่าไห...