Unpack : Mistine So Black Liquid Eyeliner

               Mistine So Black Liquid Eyeliner มันเริ่ดมาก อันนี้ใช้เป็นชิ้นที่  2 แล้ว และคิดจะซื้อต่อไปจนกว่าจะเลิกผลิตแน่นอน 555 ส่วนตัวเราแต่งตาเข้มมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยเจอไลเนอร์แบบน้ำอันไหนที่ทนทานและเขียนง่ายเท่านี้มาก่อน ก่อนอื่นขออนุญาติเท้าความอดีตให้ฟังถึงประสบการณ์ที่เคยใช้อายไลเนอร์ แรก ๆ เคยใช้แบบที่เป็นเจล ยี่ห้อแรกที่เคยใช้คือเคท ซึ่งอันนั้นต้องยอมรับว่าเค้าติดทนจริง แต่มันมีระยะเวลาการใช้นะ ประมาณ / เดือนก็แห้งผาก มิสามารถจะแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ต่อมาเหมือนมันขึ้นราคา จนแพงเกินเอิ้อมถึงเลยไปถอยเจลของเมเบอลีนมาใช้ บอกได้คำเดียวว่าแม่งโครตห่วย 555  แพนด้ากระจาย เลวมาก 

             ต่อมาเลยลองของมิสทีนมั่ง ตอนนั้นแพนเค้กเป็นพรีเซนเตอร์ รุ่นแคทอายมั้งถ้าจำไม่ผิด ราคาไม่ถึงร้อยแต่ทนประมาณเมเบอลีน ด้วยความจนบังคับ จึงแก้ไขด้วยการเอาอายชาโดว์สีดำมาทาทับหลับใช้เจลเสร็จก็ช่วยได้ระดับนึง ติดทนขึ้นแต่ถ้าเหงื่ออกเยอะ ๆ ก็แพนด้าบ้างตามสมควร แต่ให้อภัยได้ไง เพราะถูก แต่เมเบอลีนไม่ให้อภัยนะ ของแพงแต่คุณภาพประหนึ่งของถูก (นึกถึงแล้วยังแค้นอยู่นะ แหม เกือบ 400 คุณภาพประหนึ่ง 15 บาท) ตอนหลังเจลของมิสทีนเหมือนหาซื้อยาก เลยใช้อายชาโดว์มาเขียนแทนซะเลย เราใช้ของ sleek สีดำ เขียนแทนไลเนอร์มาหลายปีมากเลยเพราะมันดำสนิทไม่แพนด้า ระหว่างนั้นก็ลองถูกลองผิดใช้อีกมากมายหลายยี่ห้อ ไม่เจอตัวไหนถูกใจเลย เป็นที่น่าจดจำเลย จนกระทั่งมาเจอตัวนี้

ส่วนประกอบ คลิกขวาซูมดูได้เหมือนเดิมจ๊า

              

            ได้อ่านรีวิวจากพันทิพที่ลองไลเนอร์ทนท้าสงกรานต์ ซึ่งอีตัวนี้มันทนได้น่ามหัศจรรย์มาก กิเลสพุ่ง เลยรีบไปซื้อมาใช้ทันที ในราคา 75 บาท ลองครั้งแรกบอกตรง ๆ ว่าไม่ถูกใจหัวเขียนมันเอาซะเลย มันยาวไปนิด คอนโทรลลำบาก เบี้ยวตลอด ๆ เลยแก้ปัญหาด้วยการเอากรรไกรตัดซะเหี้ยนเลยให้มันสั้น ๆ หนา ๆ จะได้คอนโทรลง่าย ๆ ปรากฏว่าพอใช้ไปซักพัก ใกล้หมดก็ล้วงไลเนอร์ไม่ขึ้น 555  พยายามตะแคงก็ไม่ออก อ่านะ เลยทำใจต้องซื้อใหม่ สิริรวมอายุลายเนอร์อันแรกคือ 1 เดือนครึ่ง  ใช้ทุกวันนะคะ ขอบอก เลอค่าไหมล่ะ

                พออันใหม่ที่ซื้อมาก็เลยไม่ตัด มนุษย์เราต้องพยายามปรับตัวนะ ถึงจะอยู่ในโลกใบนี้ได้ ปล้ำอยู่นานกว่าจะแต่งหน้าได้ลงตัวกับขนแปรงอันแสนยาวของมัน เราใช้เทคนิคคือเอานิ้วก้อยมาจิ้มตรงแก้มเป็นฐานให้มั่นคงแล้วค่อยลากเส้น เส้นจะสม่ำเสมอขึ้น ไม่เอียงไปเอียงมา  ก็ควบคุมได้ดีมากขึ้น และเราเรียนรู้ว่าการที่แปรงมันยาวก็มีข้อดีคือทำให้เขียนเส้นได้บางดี ซึ่งถึงดิชั้นจะปลื้มการเขียนตาหนาเป็นร็อคสตาร์ แต่พอได้เปลี่ยนสไตร์มาแบบนี้ก็โอเคนะ แต่หารูปอันที่เขียนบาง ๆ ไม่เจอนะ เอาเป็นรูปที่ใช้แบบตัวปลายแปรงให้เหี้ยน ๆ ไปดูก่อนนะ

อันนี้ลองเขียนจากปลายทู่ ๆ 

4.8/5

ความติดทนให้ 100 คะแนนเต็ม ความดำให้ 100 คะแนนเต็ม มันเริ่ดเลอ ดีพร้อมสุดยอด หักนิดนึงตรงแปรงอ่ะ รู้สึกว่ามันง่อย ๆ ยังไงบอกไม่ถูก กับเรื่องที่เวลาเขียนซ้ำ ๆ แล้วมันเหมือนเป็นชั้น ๆ แป้งหนา ๆ แต่มันไม่หลุดนะ

---

Empty : #2 May 2014

1. มิสทีนไอรอนมาสคาร่า  Mistine Iron Curve Love Mascara
             เห่อเมื่อสามชาติที่แล้ว ในที่สุดก็ใช้จนหมด เอาจริง ๆ ก็ไม่เชิงหมดนะ มันกรังจนไม่ดึงเนื้อมาสคาร่าออกมาแล้วตังหาก 555 ไอ้ตัวนี้ดีนะ เหมาะกับคนที่ชอบให้ขนตาดูหนา ส่วนเราไม่ค่อยนิยมน่ะ ชอบให้มันยาวมากกว่า จะแห้งช้านิดนึง ให้ระวังเลอะด้วย ถ้าจะปัดซื้อให้รอระยะเวลานิดนึง ไม่งั้นมันจะติดเป็นก้อนแพ ๆ น่าเกลียดมาก อย่าใจร้อนกับมาสคาร่าตัวนี้ ตัวนี้ไม่แพนด้า ไม่ร่วงเป็นผงด้วย กันน้ำนะ ลองมาแล้ว ไม่ไหล แต่ต้องให้มันแห้งสนิทนะ ถ้าไม่แห้งอย่าได้ริลอง ไหลเป็นผีญี่ปุ่นเลยแหละ ส่วนตัวชอบแปรงมันมากเลยแหละ หลังจากมันหมดแล้วก็แยะชิ้นส่วนมาทำเป็นแปรงปัดคิ้วซะเลย กิกิ สารพัดประโยชน์มากฮ่ะ

ซื้อต่อไป ไม่นะ แอบชอบตัวอื่นมากกว่า ของมิสทีนเหมือนกัน ว่าง ๆ จะถ่ายรูปมาให้ดู

2/5

2. Benzac AC 2.5 %
                ใช้มาได้หลายเดือนละ แต้มมั่งไม่แต้มมั่ง คนอื่นเค้าแพ้กัน อิชั้นสงสัยจะหน้าด้าน ทาแล้วหลับไป ตื่นมาก็ยังไม่ระคายผิว เหมือนจะช่วยเรื่องสิวนิดนึง สิวอุดตันตามกรอบหน้าลดลงนะ วันไหนไม่ทารู้สึกไม่มั่นใจ 555 ไอ้ตัวนี้หลักการเดียวกันคือบีบไม่ออกก็ตัดแม่มเลย แล้วใช้ฝามันครอบไว้ เพื่อกันเชื้อโรค ใช้ครีมที่เหลือได้อีก 2 วัน จะพยายามไม่ให้เกินนี้นะ กลัวเชื้อโรคฟักตัวเป็นหนอนจ๊า

ซื้อต่อไหม แน่นอนจ๊า อาจจะขยับไปเป็น 5 เพราะมันไม่ระคายหนังหน้าเลยชิง ๆ

5/5

3. เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัช Aloe gel by GPO
               ซื้อมานานมากแล้ว เอามาทาตอนหน้าแห้งมาก ๆ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรมันมาก เหมือนที่ห้องแป้งอวยกันไว้นะ หน้าเรามันด้านชาหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ส่วนตัวไม่ชอบแพกเกจ มันเหมือนหลอดยาสีฟันสมัยโบราณน่ะ บีบออกก็ออกไม่หมด เจ็บมืออีกตังหาก ได้หลอดดีบุกแบบนี้มันรักษาเนื้อครีมไม่ได้น่ะ อันนี้ก็ไม่ได้หมดหรอกนะ แต่มันระเหยไป จนเนื้อเป็นก้อนแข็ง ๆ สีขาวข้างบน ไม่สามารถบีบใช้ต่อได้

ซื้อต่อไหม ไม่แน่นอนจ๊า  ดีที่ไม่แพงมาก เสียดายตังค์มาก ๆ

1/5

4. ฮีรูสกาสีฟ้า-เหลือง Hiruscar gel
             มีใครเรียกแบบนี้ไหม 555 ไอ้ตัวนี้เอามาใช้ตอนเลเซอร์ขี้แมงวัน พอแผลหายก็ประโคมไป ปรากฏว่าอีขี้แมงวันแม่งงอกมากใหม่ บำรุงดีเกินไป พอรอบหลังเลยลองไม่ทา อั้ยย่ะ ขี้แมงวันที่จี้ก็ไม่งอกมาเหมือนเคย ตอนนี้เลยเอาไว้ทารอยสิวแทน รอยจี้ไม่ยุ่งกะมันเลย ก็ดีขึ้นนะ

ซื้อต่อไหม ซื้อนะ เป็นยาสามัญประจำบ้าน ยังไงก็ต้องซื้อ เราชอบมากกว่าสกาเจล หรือยี่ห้อใด ๆ ที่เคยใช้มา แต่แม่ม แพงงงงง

4.5/5 ไม่รู้จะหักทำไมเหมือนกัน แต่คิดว่ามันไม่ควรได้คะแนนเต็มน่ะ อยากหาตัวอื่นที่ดีกว่านี้

5. บรอนเซอร์ของ MUA   MUA Pro Mosaic Bronzer - Sunkissed Glow

                ใช้ไปไม่ทันไรก็ร่วงตกแตกเป็นผุยผง เจ็บใจมว๊าก บอกเลย เลยเอามาใส่กระปุกเก็บไว้ใช้ต่อ แพกเกจมันห่วยน่ะ ไม่กันกระแทกเล้ย คิดแล้วเซ็ง ส่วนตัวชอบสีมันมาก งามกำลังดีเหมาะกับคนผิวสองสีสุด ๆ ติดทนดีด้วย

ซื้อต่อไหม ไม่นะ เจ๊โกรธ ว่าจะไปลอง Catirce แทนราคาไม่แรงมาก

1.5/5

Empty : #1 May 2014

           
             เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการเก็บของเก่าใช้ให้หมดสิ้น หลาย ๆ อย่างที่ใช้ก็พร้อมใจกันมาหมดในเดือนนี้พอดี

1. ครีมกันแดดดอกเตอร์สมชาย Dr.Somchai Natural Sunblock Cream SPF50
          ซื้อเมื่อเดือนก่อนโน้นตอน 1 แถม 1  ใช้จนหมด ตัดหลอดมาล้วงแล้วประกบกัน ใช้ต่อได้อีก 2 วันแน่ะ 555  เออ อยากจะบอกว่ามันใช้ดีมากเลยนะไม่น่าเชื่อ กันแดดได้ดี ไปทะเลมา 5 วัน หน้าก็ไม่คล้ำลงแต่อย่างใด (ไม่ลงน้ำนะ) แล้วก็เนื้อครีมมีสีเล็กน้อย ทำให้เมื่อทาแล้วประหนึ่งลงรองพื้นไปในตัว หน้าเนียนเชียว ไม่หมองเป็นเจ้าเข้าเหมือน cutepress ด้วยนะเออ ชอบเนื้อสัมผัสของตัวนี้จริง ๆ

ซื้อต่อไหม  ถ้า 1 แถม 1 อีกจะซื้อนะ

5/5

2 กันแดดบานาน่าโบ๊ท Sunscreen - Banana Boat - Sun Protection SPF 50 with Aloe Vera and Vitamin E
ซื้อมาตุนตอนลด 50 เปอเซน เริ่ดนะ รักกันจนวันตาย ไม่เหนียว ไม่หนืด กันแดดได้ดี ราคาไม่แพง

ซื้อต่อไหม ถ้าลดราคานี้อีกก็ตุนแหละจ๊า แอบกระซิบว่าไปเจอที่ร้านธนาวัตน์ วังหลัง 185 เอง

4/5 แขนเสื้อเหลืองอ่ะ


3. น้ำยาล้างคอนแทก Alcon   Alcon OPTI-FREE Replenish
ตอนนั้นซื้อมาเพราะมีโปรแถมชุดแต่งเล็บ ใช้ไปใช้มาก็ดีนะ ราคาไม่แพง ล้างได้สะอาดดี ฝาขวดปิดง่าย ขวดจับถนัดมือ

ซื้อต่อไหม อาจจะนะ ตอนนี้เพิ่งซื้อตัวล้างของบอชแอนด์ลอมที่ปรับฝาเป็นแบบใหม่อยู่ กำลังชั่งใจว่าของยี่ห้อนี้กับบอชแอนด์ลอมอันไหนดีกว่ากัน

4/5 ไม่ค่อยเจอลดราคา


4. น้ำยาล้างบอชแอนด์ลอมขนาดพกพา Bausch & Lomb ReNu Solution
ได้แถมมาตอนไปซื้อคอนแทกยี่ห้อเดียวกันนี้แหละ 2 กล่อง แถมอันนี้กับกระจกเงาพกพา บ้าของแถมเลยชอบซื้อคอนแทกยี่ห้อนี้ 555 ไอ้ตัวนี้ก็ดีนะ ขนาดพกพา เวลาหนีไปซิ่งก็พกพาไปใช้ได้สะดวก ใช้ได้ประมาณ 5 วัน

ซื้อต่อไหม ไม่นะ ถ้าแถมจะเอา ฝามันห่วยน่ะ แกะยากมาก

2/5

5. บีเฟซต้า สีน้ำเงินแบบเติม เอามาใส่ขวดสีเขียว Bifesta Bright Up Cleansing Lotion
           ซื้อแบบรีฟิวก็ดีนะ ประหยัด 280 เอง ไม่แพง ช่วยโลกอีกตังหาก อยากให้เมืองไทยทำของแบบรีฟิวมาเยอะ ๆ จะได้ไม่ต้องทำขวดพลาสติกใหม่เยอะ ๆ ไอ้ตัวนี้ก็ดีเสมอต้นเสมอปลายนะ ไม่ได้ทำให้แพ้แต่ประการใด ล้างหน้าก็สะอาดหมดจดดี ช่วงหลังไอ้ตัวนี้ไม่ค่อยเปลือง เพราะหันไปใช้ตัวล้างแบบน้ำมันของ Za แทน อันนี้เอาไว้ใช้เวลาขี้เกียจ เมา หรืออะไรทำนองนี้แหละ
           เมื่อวันก่อนได้ตัวทดลองของโปรวาเมดมา เป็นคลีนซิ่งแบบน้ำนี่แหละ ตอนนี้เลยยังไม่ซื้อใหม่ รอให้อันโน้นหมดก่อน ค่อยว่ากันอีกที

ซื้อต่อไหม อาจจะนะ ไม่แน่ใจ ลองของโปรวาเมดแล้วแอบชอบกว่านิดหน่อย ไม่รู้สิ โปรวาเมดหมดค่อยว่ากันอีกที

4.5/5 แพงจุง พอขายดีก็ไม่ลดราคาเลยนะ ดวกส์

What's New ? : March - May's New Items

                 ขออนุญาติ เรียนท่านผู้อ่านทุกท่านว่าต่อไปนี้บล็อกจะไม่มีโหมดรีวิวแล้วนะจ๊ะ หลังจากได้พิจารณามาหลายเดือนก็พบว่า ใช้ให้หมดแล้วค่อยรีวิวจะดีกว่าของบางอย่างก็ดีตอนแรก ๆ ใช้ไปแล้วก็งั้น ๆ ดังนั้นจะเปลี่ยนเป็น Empty  แทนนะคร๊าฟ แล้วก็จะปรับให้กลายเป็น ช่วง Unpack สำหรับของที่ซื้อมาแล้วน่าสนใจ ส่วนเรื่องที่ซื้อของหมู่เข้ามาก็ยังเป็นหมวด What New? เหมือนเดิม กราบเรียนให้ทราบไว้ล่วงหน้าก่อน ถ้าเห็นหายไปหลายอาทิตย์ไม่อัพเดทก็แสดงว่า ยังไม่มีเงินซื้อของใหม่ หรือยังใช้ของเก่าไม่หมดนั่นเอง กรู๊ว

               ช่วงหลังหายไปนานมาก ขออภัยด้วยจ๊า งานการยุ่งมากมาย เดินทางตลอด แต่ก็ไม่ได้ละเว้นการชอปปิ้งนะจ๊ะ ณ จุดนี้หายไปหลายเดือนมีของใหม่หลายชิ้น ลืมถ่ายบ้างอะไรบ้าง เอาเท่าที่พอหารูปได้แล้วกันนะจ๊ะ

          ตัวนี้ได้จากเว็บจีบันเมื่อคราวเล่นเกมเมื่อนานมากแล้ว แต่เพิ่งแวะกลับไปบ้านแม่ไปเอา เกือบเลืมไปแล้วว่าได้ตัวนี้มา จริง ๆ แล้วเราชอบกันแดดตัวนี้นะ แต่แพงเกิ๊น เราใช้เปลืองน่ะ หลอดประมาณนี้เดือนเดียวก็หมด ตอนหลังถ้าไม่มีเงินก็ไม่ค่อยซื้อ ชอบกันแดดมิสทีนที่เคยรีวิวไว้มากกว่า เพราะว่ามันถูกกว่าแล้วก็เนื้อคล้าย ๆ กัน

            คอนซีลเลอร์ตัวเก่าใกล้หมด เลยไปแซ่บตัวนี้มา 200 ต้น ๆ จากอีฟแอนบอย ราคาไม่แพง ลองใช้ไปสองสามครั้งก็โอเลย เนื้อดีปกปิดดีมาก

            ตัวนี้เหมือนโดนสะกดจิตเนื่องจากอยากได้ของแถม 555 เป็นบรอนเซอร์เนื้อแมตของคอลเลคชั่น เนื่องจากของเก่าแตกกระจาย เลยต้องหาตัวใหม่แทน ที่ตัดินใจเอาตัวนี้เพราะว่าฝามันเป็นแบบปิด หมุน ๆ ส่วนตัวเราไม่ชอบฝาแบบเป็นข้อพับ เพราะเราชอบทำพังง่ะ เนื้อตัวนี้ดีนะ ไม่ส้มมาก 

            อันนี้ตัวไพรเมอร์ของคอลเลคชั่นเหมือนกัน 300 กว่าบาท ซื้อ1 แถม 1 แถมยังมีตัวทดลองแถมอีก เลยจัดมากแบบสวย ๆ ชีวิตนี้ไม่เคยใช้ไพรเมอร์เนื้อแบบนี้เลย ไม่รู้จะเทียบกับอะไรดี แต่จากการใช้ก็ค่อนข้างประทับใจ คุมมันดีเยี่ยม เสียแต่ว่าใช้เวลาเซตตัวนานไปนิด

           อันนี้สำลี 1 แถม 1 จากซูฮาระ 69 บาทขาดตัว ของวัตสันใกล้หมดเลยอยากทดลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง ๆ ก็ดีนะเนื้อบางดีไม่เปลืองโทนเนอร์ ไว้จะมาเทียบกับวัตสันให้ดู

               ยางรองดัดขนตาของ mel linda เนื่องจากตอนไปซิ่งต่างจังหวัด ขนของไปขนของมา ดันทำยางหาย ขณะที่ที่ดัดขนตายังไม่พัง ไปอีฟแอนบอยให้แยกขาย เลยจัดมา 1 อัน ยางเนื้อแน่นดีกว่าของที่แถมมากับที่ดัดขนตาอีก ชอบมาก

            มาสคาร่าตัวใหม่ของมิสทีน ของเก่าหมดเลยถอยตัวใหม่มา เค้าบอกปลอดภัยกับคนใส่คอนแทกเลนส์ ราคาไม่ถึงร้อยนะ ถ้าจำไม่ผิด ดีนะ ตัวนี้ชอบเลย

          อายลายเนอร์ของมิสทีน เห็นกระทู้แนะนำในห้องแป้งเรื่องอายไลเนอร์ที่ทนน้ำ ตัวนี้ติดอันดับ เลยเลยจัดมาแบบไม่คาดหวัง เพราะราคาไม่ถึง 70 ด้วยมั้ง ใช้ดีมาก ๆ ๆ ๆ 

           ตัวนี้ 1 แถม 1 ในอีฟแอนบอยอีกเหมือน 270 100 มิล เพื่อแนะนำมาว่าดีมาก เลยจัดมาเบา ๆ ปรากฏใช้ดีมาก ๆ ๆ ชอบสุด ๆ เป็นออยคลีนซิ่งที่ชอบที่สุดที่เคยใช้มาเลย ดีกว่าบีโอเรอีก รักมากอ่ะ

               น้ำยาล้างคอนแทกเลนส์ bausch and lomb ฝาปิดแบบใหม่ เราไม่ชอบฝาปิดเดิมของยี่ห้อนี้ เลยไปใช้ของ Alcon มาได้หายเดือนแล้ว พอเห็นเค้าปรับฝาปิดแบบนี้เลยลองมาใช้ดู 179 แถมตัวพกพา 1 อัน ราคามาตรฐาน ไม่ถูกไม่แพง

bausch and lomb ฝาใหม่ปิดสะดวกดี ชอบ ๆ 

           ตัวนี้ก็ได้มาจากจีบันเหมือนกัน ช่วงนี้มีแต่ ของฟรี กับ 1 แถม 1  แฮะ อายจัง อันนี้ดีนะ แอบปลื้มบีเฟซต้าหมดพอดี เลยลองใช้มาได้เกือบเดือนละ หมดแล้วจะเม้าท์ให้ฟัง

จริง ๆ ของยังไม่หมดนะ เอาไว้ยกยอดเป็นสิ้นเดือนนี้แทนแล้วกันนะ 

Review : Dr.Somchai Natural Sunblock Cream SPF50

1 แถม 1 ราคา 196 บาท

          เดือนนี้ลองเปลี่ยนกันแดดดู เมื่อเดือนสองเดือนก่อนลองใช้ Provamed อยู่ได้สัก 2 หลอดมั้ง ก็เริ่มเบื่อ แล้วอีกอย่างห้างแถวบ้านก็หาซื้อยากด้วย ขี้เกียจซิ่งรถไป เลยลองหากันแดดตัวใหม่ ๆ มาลอง อันนี้ราคาถูกดีด้วย เคยอ่านบล็อกของคุณฟีบี้เรื่องข้อดีข้อเสียของกันแดดแบบต่าง ๆ  ก็เลยอยากลองหากันแดดแบบ physical sunscreen มาลองใช้หลาย ๆ ตัวดู ตัว Provamed ที่เคยใช้มันเป็นแบบ physical เหมือนกันนะ แต่แถวบ้านเรามีแต่สีขาว เวลาทาแล้วเกลี่ยไม่ดี มันจะเป็นคราบนิด ๆ ตัวนี้ที่เราเอามาเป็นสีเนื้อ

         แต่สีเนื้อที่ให้มามันไม่ได้เข้มแบบกันแดดคิวเพลสนะ (ฝาส้ม)  เนื้อมันจะบางกว่า เอาจริง ๆ แล้วแทบไม่เห็นผลในเชิงคอสเมติกเลยล่ะ 555 แต่ก็คงดีกว่าใช้สีขาวแหละ เกิดเป็นคนดำต้องทำใจนะฮ๊าฟ เนื้อจะมีความมันนิดนึง แต่พอลงไปกับผิวแล้วก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกมันหรือเยิ้มระหว่างวันนะ อีกอย่างสีก็ไม่ดรอบลงด้วย รู้สึกประทับใจพอสมควรเลย

             ขออภัยหนังหน้าแย่มาก มีสิวอุดตันบุกประปราย กำลังหาสาเหตุอยู่ คาดว่าน่าจะมาจากกันแดดของ Provamed นี่แหละ ถ้าเปลี่ยนแล้วยังไม่ดีขึ้น คงจะลำบากละ 5555 จะเห็นว่าพอลงแล้วหน้าก็ไมไ่ด้เนียนขึ้นแบบสังเกตได้หรอกนะ รอยสิวเหมือนเดิม รอยแดงเหมือนเดิม แต่หน้าจะมันขึ้นนิดนึง แค่นั้น

ถ่ายรูปส่วนผสมมาให้อ่าน เผื่อมีใครแพ้ตัวไหนจะได้หลีกเลี่ยงนะจ๊ะ

3/5 

ไม่แน่ใจต้องรอดูกันยาว ๆ 

Swatch : Mistine Professional complete Palette #01 มิสทีน โพรเฟสชันแนล คอมพลีท พาเลท #สีชมพู

              ของเล่นใหม่จากมิสทีน  สั่่งมา 169 บาท แถมแปรงพกพามาอีก 1 อัน อันนี้อยากเอาไปพกพาตอนเดินทาง ใจจริงอยากได้ของ sleek face form นะ แต่งบไม่ถึง ในเมืองไทยมันแพงเหลือเกิน ถ้ามีโปรส่งฟรีเมื่อไหร่คงได้จัดเต็มกับ sleek แน่นอน

หลังกล่องมาคุณสมบัติ สถานที่ผลิต วันที่ผลิต บลา ๆ 

          เปิดมาเป็นตลับดำ ๆ เงา ๆ เหมาะมือมาก ๆ  ด้านหลังมาวิธีใช้ และส่วนผสมให้อ่าน ถือว่าแพกเกจผ่านนะ เราชอบ ไม่ต้องมีอะไรวุ่นวาย ธรรมดาก็พอแล้ว

         เปิดมาก็เป็นแบบนี้ มีกระจกให้ กางได้ 90 องศา ขนาดพอเหมาะดีเหมือนกัน ที่สำคัญเปิดมาแล้วสิ่งที่สัมผัสได้เป็นอย่างแรง คือ กลิ่นหอมมากค่ะ นึกไม่ออกว่าหอมเหมือนอะไร แต่ประทับใจมากฮ่ะ

ข้างในเปิดมาก็จะเห็นสีเรียงแบบนี้ งามมากฮ่ะ 

         ซูมสีให้ดูนะ สีน้ำตาลเพี้ยนไปนิด ขออภัย เทียบสีได้จากรูปด้านบน จะเห็นว่าวิงค์แค่ 2 สีนะ สีไฮไลท์สว่างมาก กรุณาอย่าหนักมือ แวววาวมากฮ่ะ ส่วนบรัชก็ใส ๆ นะพอลงจริงแล้วไม่ค่อยเข้มแบบที่เห็น 

             ลองสวอชสีให้ดู จะเห็นว่าสีน้ำตาลกลืนกับผิวเราไปเลย 555 เนื้อผลิตภัณฑ์จะแป้งนิดนึงไม่ค่อยมีพิกเมนต์เท่าไหร่ อาจจะเหมาะกับมือใหม่หัดคอนทัวน์ สีน้ำตาลเป็นสีที่เราชอบน้อยที่สุด ไม่ค่อยประทับใจ อยากให้ใส่เนื้อสีมาใ้ห้เยอะกว่านี้  ส่วนเรื่องความคงทนก็ตามราคานะ ได้สัก 6 ชั่วโมงก็เต็มที่ละ

2.5/5

Review : เลเซอร์ Co2 จี้ขี้แมลงวัน นิติพลคลีนิค #2

ความเดิมจากตอนที่แล้ว อ่านที่ : Review : เลเซอร์ Co2 จี้ขี้แมลงวัน นิติพลคลีนิค #1

                  ผ่านไปหลายเดือนพึ่งมีเวลามาเขียนภาคต่อ อภัยในความล่าช้าด้วยฮ่ะ เราไปทำครั้งสุดท้ายที่คลินิกประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ดังนั้นสภาพแผลที่เห็นคือสิ้นสุดคอร์สไปแล้วนะ ตอนเริ่มต้นคอร์ส เรามีขี้แมลงวันจำนวนทั้งสิ้น 21 เม็ด มีขนาดใหญ่ 10 เม็ด เป็นไฝ มีรอยนูน 1 เม็ด ที่เหลือเป็นขี้แมลงวันขนาดเล็ก ลองมาดูกันว่าสภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง เราจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่หายขาด และกลุ่มที่หมอจี้ไม่หมด (ลองย้อนกลับไปดูภาพเก่าที่ลิงค์ด้านบนได้นะ)

กลุ่มแรก : หายขาด 

เราคิดเป็น 70 เปอร์เซนของทั้งหมด หลังจากจี้ครั้งสุดท้ายก็ไม่มีจุดดำขึ้นมาอีก จะเหลือแค่หลุมตื้นและรอยแดงที่พยายามรักษาอยู่ แต่บางเม็ดกลับมีรอยนูนเพิ่มขึ้นมาด้วย อันที่หายแล้วเราจะไม่ถ่ายรูปมาด้วยนะ เพราะมันหายไปหมดแล้ว จะถ่ายเฉพาะที่ยังมีรอยแดงเหลืออยู่ก็แล้วกันค่ะ

         อันนี้เป็นจุดที่อยู่ข้างแก้ม เดิมทีเป็นขี้แมลงวันขนาดเล็ก ทั้ง ๆ ที่เป็นจุดที่ไม่เคยทำซ้ำ แต่รอยแดงกลับไม่ยอมหายซะที อาจจะเป็นเพราะมันบอบบางมากก็ได้

           ส่วน 2 เม็ดนี้อยู่ใกล้คาง เดิมเป็นขี้แมลงวันขนาดใหญ่ เกือบ 0.5 เซนได้ อันนี้ทำซ้ำทุกครั้งที่ไปจี้ เพราะหลังจากทำก็จะมีรอยจุดดำ ๆ ขี้นซ้ำตลอด โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะหายขาดนะ ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไป

กลุ่มที่ 2 : กลุ่มที่หมอจี้ไม่หมด (หรือกลุ่มที่รากอยู่ลึก)

          ขออภัยที่ภาพสยองไปนิด พอซูมหนังหน้าแล้วมันน่ากลัวจิง ๆ 555 จะสังเกตเห็นว่ารอยแดงเริ่มจาง แต่กลับมีขี้แมลงวันเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกในจุดเดิม

มาดูจุดอื่นกันบ้าง อันนี้ยังเป็นหลุมชัดเจนอยู่ มีขี้แมลงวันเริ่มขึ้นมาเป็นจุดเล็ก ๆ ตรงกลาง หวังว่าถ้าเนื้อเต็มแล้วจะไม่ใหญ่เท่าเดิมนะ

อันนี้ก็แนวเดียวกันอันข้างบน แต่รอยขี้เเมลงวันมันใหญ่เท่าเดิมเลยล่ะ

อันนี้เดิมเป็นไฝนูน เอาออกได้ขนาดนี้ก็โอแล้วล่ะ

          ที่เห็นเป็นทางน้ำนั่นน่ะ เหงื่อ 555 โครตร้อนเลยเน๊อะ ประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้แล้ว โลกใกล้แตกจริงแหละ แค่จะถ่ายรูปแค่เนี้ย เหงื่อมาเป็นทางเลย อันนี้อยากให้สังเกตหลุม ไม่ลึกนะ แต่ก็ยังเห็นว่าเป็นหลุม

อันนี้ก็แนวเดียวกับข้างบน เป็นหลุม มีรอยแดงและเริ่มมีจุดขี้แมลงวันขึ้นซ้ำที่เดิม

          อันนี้ถ่ายกับแสงที่อยากให้ลองสังเกตถึงรอยหลุมบนสภาพหน้าปัจจุบัน เราเชื่อมั่นนะว่ามันจะเต็ม แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักเดือนหรือสองเดือน

สรุป เดิมมีจุดขี้แมลงวันอยู่ 21 จุด หลังจากหมดคอร์สไปแล้วสองเดือนมีขี้แมลงวันขึ้นซ้ำในจุดเดิม 7 รอย คิดเป็น 33 เปอร์เซนของทั้งหมด ใช้งบประมาณ 4800 บาท คิดซะว่าเท่ากับจุดละ 230 บาท

ความคุ้มค่า          ถ้าเฉลี่ยจุดละ 230 บาท ถือว่าไม่แพงนะ ในความคิดเรา และยังสามารถผ่อนได้อีกด้วย ได้แต้ม ไม่ต้องเสียเงินก้อน

ประสิทธิภาพ        เราไม่พอใจกับผลการรักษานะ การที่คิดคอร์สมาว่าจี้ได้ 4 ครั้งในรอบ 2 เดือน เราคิดว่ามันเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป จริง ๆ แล้วการที่เราจะรู้ว่าขี้แมลงวันจะขึ้นใหม่อีกหรือไม่  ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเลยนะ บางครั้งไปเนี่ยผิวมันก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะให้จี้ซ้ำได้เลย  เราไปให้หมอเช็กครั้งแรก หมอยังออกปากเลยว่าจริง ๆ มาตอน 1 เดือนไปแล้วก็ได้ เพราะมาตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นว่าจุดไหนขึ้นซ้ำบ้าง (ซึ่งจะให้คุ้มราคาที่ทำไปก็ต้องมาทุกสองอาทิตย์น่ะ ) เราเข้าใจนะ ถึงสาเหตุที่ว่าทำไมถึงจี้ไม่หมด เพราะถ้าจี้ให้หมดทีเดียวมันจะเป็นหลุมลึกเกินไป แต่เราคิดว่าทางคลินิกน่าจะปรับคอร์สเป็นว่าทำได้ 4 ครั้งภายใน 4 หรือ 6 เดือนมากกว่า ทำในขณะ 2 เดือนเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป  

ที่เราคิดแบบนี้เพราะว่าหลังจากที่เราทำจนครบคอร์สนั้นขี้แมลงวันเราก็ไม่ได้หายไป หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือนถึงจะเห็นว่ามันขึ้นมาซ้ำอีก อยากให้คลีนิกให้เวลามากกว่านี้

จะทำต่อไหม   ตอบเลยว่าไม่ จากนี้จะรักษาหลุมและรอยแดงให้หาย เพื่อที่จะรอดูว่าขี้แมลงวันที่เหลือกลับมาใหญ่แค่ไหน จะได้หาคลีนิกใหม่ทำ 

ข้อแนะนำและความคิดเห็นอื่น ๆ 

1. เลเซอร์ตัวนี้แนะนำให้ทำตอนที่มีเวลาพักหน้า หาช่วงที่มีวันหยุดยาวไปทำดีที่สุด เพราะถ้าต้องแต่งหน้าในขณะที่เป็นแผลจากเลเซอร์อาจจะอุดตันและแผลไม่แห้งไวในแบบที่ควรจะเป็นได้

2. ไม่ควรทาพวกไวเทนนิ่งหรือครีมที่มีการขัดหน้า จะทำให้รอยแดงหายช้า แนะนำให้มาร์คหน้าหรือทาครีมที่มีส่สนผสมของวิตามินอีเป็นประจำ เพื่อบำรุงหน้าและรอยจะตื้นไวขึ้น

3. ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรหาครีมลดรอยแผลเป็นในตอนนี้ ครีมบางตัวจะเร่งให้สร้างเนื้อเยื่อ ขี้แมลงวันที่ถูกจี้ไม่หมดก็จะได้สารบำรุง ทำให้มันขึ้นใหม่ได้อีก (คหสต ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ)

4. ถ้าไม่อยากมีหลุมบนหน้า แนะนำว่าอย่าทำ เพราะกว่าหลุมจะหายใช้เวลานานมาก ๆ ๆ จนท้อเลยล่ะ

5. ไปทำเลเซอร์มาใหม่ ๆ อย่ามือบอนแกะ ปล่อยให้มันตกสะเก็ดและหลุดไปเองดีที่สุด แผลเป็นจะไม่มี หลุมก็จะน้อย

6. เวลาไปกรุณาจิตแข็ง พนักงานพยายามขายคอร์สตลอดเวลาฮ่ะ

1.5/5

What's New ? : March's New Items

เดือนนี้ของใหม่เยอะมาก และก็มีของเดิมที่ติดใจซื้อต่อ ๆ มาด้วย

Cutepress Natural Finish Loosed Powder ไม่นับกระปุกละ และจะซื้อต่ไปจนกว่าจะเลิกผลิต

อันนี้ลองของใหม่เจลล้างหน้าเก่าหมดเลยลองตัวนี้ 50 กรัม ราคา 70 บาท จากร้านแถวบ้าน หวังว่าคงจะดี ใช้ดีมีรีวิวแน่นอน

มิสทีนตัวนี้ราคา 89 บาท น้องแถวบ้านเอาแคตตาลอคมาให้ดู เลยลองสั่งไปงง ๆ ใช้ไปนิดนึงละ เหมือนจะดีแฮะ

MUA Mosaic Bronzer in Sunkissed Glow ตัวนี้ทดลองใช้ ราคา 300 บาท สั่งจากเนต เป็นของแถมสมัครตัวแทนขาย ว่าจะพยายามทำเป็นโปรเจคต่อไปนะ ไม่รู้จะสำเร็จไหม ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ด้วยนะจ๊ะ

ดร. สมชาย สบู่สิวและบำรุงผิว (ผิวอ่อนโยนและแพ้ง่าย) 21 บาท อันนี้ก้อนที่ 2 ละ แอบติดใจสีชมพู รอบนี้เลยลองสีใหม่ดู หวังว่าจะดีเหมือนเดิม

อันนี้ของเซลล์จากวัตสันสาขาแถวบ้าน ฮาดะลาโบะ ขวดละ 100 จากปกติ 320 กันแดดวัตสันเหลือ 48 บาท แล้วก็ออยล้างหน้าของฮาดะลาโบะแลกซื้อ 240 บาท จาก 385 เลยจัดหนักมาแบบงง ๆ 

Mistine Professional Complete Palette 01 บลัชสีชมพู ถอยมา 169 แถมแปรงปัดหน้าง่อย ๆ มาอันนึง เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะรีวิวให้ดูนะจ๊ะ