Review : Mistine Q Perfect Lip Scrub : มิสทีน คิว เพอร์เฟ็ค ลิปสครับ

             หายไปนานมาก ขออภัยจริง ๆ เดินทางตลอดเลย ชีวิตมันโหดร้าย ไม่ค่อยมีเวลาช๊อปเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ที่ทำงานมีป้าแม่บ้านของแคตาล็อคมิสทีนมาขาย เลยช็อปซะสะใจเลยทีเดียว ซื้อมาหลายบาทเพราะอยากไปแลกชาม 555 ไร้สาระมากเลย ตอนแรกตั้งใจซื้ออันเดียวแท้ ๆ ดังนั้นต่อไปบล็อกนี้จะรีวิวแต่ของมิสทีนไปอีกตลอด 1 เดือน 555 (อันนั้นก็เว่อร์ปาย)

           อันนึงที่ซื้อมาก็คือลิปสครัป Mistine Q Perfect Lip Scrub นั้นแล ราคาประมาณ 59 บาทได้มั้ง ถ้าจำไม่ผิด ถูกใจมากมาย ใช้ดีจริง ๆ นะ ปกติก็ใช้สครัปทำเองเป็นวาสลีนผสมน้ำผึ้งผสมน้ำตาลทรายตลอด แต่เพิ่งหมดไปแล้วก็เลยขี้เกียจกวน เห็นตัวนี้ออกใหม่เลยจัดไป เนื้อจะเป็นครีม ๆ เนื้อไม่หยาบมาก แต่กลิ่นหอมโครต ๆ วิธีใช้ก็ปาดไปที่ปาก วนไปวนมา แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด

          ถ่ายรูปส่วนผสมมาให้ดูเผื่อมีใครแพ้จะได้หลีกเลี่ยง ดูภาพใหญ่กดไปที่รูปโลด เราชอบแพคเก็จนะ ดูแข็งแรงดี คำบรรยายก็ดูจริงใจดี ไม่ค่อยขี้โม้ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย ถ้าเทียบกับสครัปที่ทำเอง ถามว่ามีอะไรต่างไหม หรือดีกว่าไหม ก็คงไม่นะ ก็คือ ๆ กัน เพียงแต่อันนี้มันสะดวกพกพามากกว่าแค่นั้น อาจจะซื้ออีกรอบนะถ้ามีให้แลกชามอีก 555 (ไม่ใช่ละเมิงงงงง)

         แนะนำสำหรับคนที่ไม่ค่อยสครัปปากนะ ผู้หญิงเราควรจะทำบ่อย ๆ นะ ไม่งั้นมุมปากที่เราสัมผัสกับยาสีฟันจะดำ บางครั้งลิปที่เราทามันตกค้างอยู่ที่ปากก็ขัดมันออกบ้าง แล้วก็หลังสครัปก็ต้องหมั่นทาลิปกันแดดด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวปากดำกว่าเดิม อีกทริกนึงคือทาวาสลีนก่อนแปรงฟังเอาให้ทั่ว ๆ เลย เวลาแปรงฟันจะได้ไม่กัดปากจ๊า เราทำประจำ เมื่อก่อนปากดำจริง ๆ เดี๋ยวนี้ดีขึ้นมากเลย

           มีรูปวิธีใช้มาให้ด้วยละเออ แล้วก็อย่ามาก็อบไปใช้ในเว็บไหนล่ะ โดยเฉพาะเว็บขายของ ไม่ให้นะเออ อย่าให้รู้เจ๊จะฟ้องให้แหลกเลย จะเอาไปใช้ก็บอกกันก่อนอย่ามาทำเนียน

กรุณามองข้ามหนวดดิชั้นไปนะเค๊อะ ใช้ดีมากเลย เสร็จแล้วปากนุ่มถูกใจมั่ก ๆ เป็นอีกชิ้นที่แนะนำให้ซื้อ ของดีราคาถูกน่าสนับสนุน

4.5/5

---

Review : Revlon ColorStay Concealer VS Revlon Photo Ready Concealer

                    Revlon Photo Ready Concealer ตัวนี้ซื้อไว้นานมากแล้วตั้งแต่สมัยเซต Photo Ready เข้าไทยใหม่ ๆ ใช้มานานมากว่าจะหมด จำได้ว่าซื้อจากวัตสันราคาประมาณสองร้อยต้น ๆ เป็นแท่ง ๆ เวลาใช้ก็ป้ายเอาได้เลย แนะนำให้ป้ายแล้ววอร์มที่มือก่อนจะให้ผลลัพท์ที่ดีกว่า

                    เนื้อตัวนี้จะเป็นครีมหนัก ๆ เกลี่ยค่อนข้างยาก ปกปิดรอบสิวได้พอสมควร มีสีให้เลือกน้อยไปหน่อย แต่โชคดีที่เรามีสีที่เหมาะกับตัวเอง ใช้สำหรับปกปิดสิวได้ดี ถ้าทาใต้ตาจะตกร่องแน่นอน ไม่แนะนำจ๊า 

                   แพกเกจทนทานมาก ตกก็ไม่แตก ฝาที่ปิดก็แข็งแรงไม่หลวมให้ช้ำใจ

                 Revlon Color Stay Concealer ตัวนี้เพิ่งไปถอยมาที่อีฟแอนบอย เพราะสีมันเหลืองได้ใจมาก เนื้อดีสุด ๆ ทาแล้วเนียบกริบมาก ปลื้ม

                เนื้อตัวนี้จะเป็นครีมบางเบา ส่วนตัวเราว่าปกปิดสิวไม่ดีเท่าไหร่ ทาเอามาใต้ตาปิดแพนด้าจะเหมาะมาก เพราะไม่ตกร่องเลย เพราะเป็นแบบน้ำแพกเกจเลยเป็นแบบจิ้มจุ๋ม เราไม่เคยใช้คอนซิลเลอร์น้ำมาก่อนเลยแฮะ อันนี้เป็นตัวแรก ส่วนตัวเราว่ามันสกปรกอ่ะ 555 แบบว่าเอาจิ้มหน้าแล้วก็เอาลงกลับใส่ที่เดิม แบคทีเรียคงขยายพันธุ์กันดีพิลึก ชอบแบบแท่งมากกว่า คือใช้แปรงปาดแล้ววอร์มเนื้อเอาที่มือ มันดูแล้วถูกอนามัยกว่ายังไม่รู้

                 ลองเทียบสีดู จะเห็นชัดมากว่า Color Stay เหลืองกว่าเห็น ๆ เกลี่ยง่ายกว่าด้วย ความเห็นส่วนตัว เราชอบทั้ง 2 แบบแหละ เอาไว้ใช้คนละหน้าที่กัน แต่ถ้า Photo Ready มีสีที่เหลืองเข้ากับผิวเรา เราคงซื้อต่ออีกสักแท่ง

-

Review : 10 สิ่งที่ต้องซื้อซ้ำๆ (10 products I would repurchase!)

1. Medmaker Vitamin E Cream  เมดเมเกอร์ วิตามิน อี ครีม

              ใช้มาได้เกือบ 3 ปี แล้ว ราคา 50 กรัม 100 บาท ซื้อจากร้านเพชรรัตน์หน้าศิริราช ราคาไม่แพง คุณสมบัติครบครัน เหมาะกับคนหน้าแห้ง ถ้าหน้ามันทาเฉพาะส่วนที่เป็นรอยแผลเป็นจะดีกว่า

              ครีมนี้สารพัดประโยชน์มาก เวลาอากาศหนาว ๆ หน้าแห้ง ๆ ก็โป๊ะตัวนี้ไป หายไวโครต นุ่มชุ่่มชื่นดีมาก รอยแผลเป็นก็หายไว เข่าด้าน ข้อศอกด้านก็ทาโลด ไม่เคยหมด เพราะสต็อกไว้สองสามหลอดตลอด ครีมประจำบ้านมาก ๆ 

2. สบู่มาดามเฮง สูตรผสมว่านหางกับวิตามินอี

               ส่วนตัวชอบสบู่รุ่นนี้มาก เพราะใช้แล้วไม่แห้งผากแบบกล่องแดง กลิ่นก็ไม่แรงมากด้วย ซื้อตามบู๊ทของมาดามเฮง ถูกสุดเคยได้ 3 ก้อน 80 บาท คุ้มมาก ๆ เราผิวแห้งมากนะ แต่ชอบมีสิวขึ้นต้นแขนไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน แต่พอใช้สบู่ตัวนี้สิวก็น้อย จนแทบหายไปหมดละ ชอบมาก ไม่เคยหมดจากตู้ ซื้อตุนไว้ตลอด ๆ 

3. ฮาดะลาโบะ สีขาว

              ซื้อใช้มานานมาก ไม่เคยคิดเปลี่ยนใจ ใช้ดีมาก ถ้าตอนกลางคืนอาบน้ำเสร็จแล้วโบ๊ะตัวนี้ก่อนแล้วค่อยบำรุงตัวอื่นตาม หน้าจะชุ่มชิ่นมาก ๆ ถ้าตอนเช้าก็เอาตัวนี้แหละทาแล้วค่อยทับด้วยกันแดดแล้วออกจากบ้านได้เลย ไม่เคยสิวขึ้นเพราะอุดตันอีกเลย ชอบมาก ๆ หน้าก็ไม่แห้งด้วย ถ้าวันไหนรู้สึกรวยก็เอามาทำมาร์คหน้ากับแผ่นมาร์คก็ดีเชียว

              ปล.เราซื้อใช้แต่ขวดเล็กเพราะเคยมีคนรีวิวในพันทิพว่า ซื้อขวดใหญ่มาใช้ไม่หมด โลชั่นมันเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง เราเลยไม่กล้าใช้ขวดใหญ่ เพราะแค่ขวดเล็กเราก็ใช้ได้ 1 เดือนเต็มแล้วน่ะ ถ้าขวดใหญ่เก็บไว้ 3 เดือน คงไม่ไหว ตามกระทู้ที่รีวิวนั่นแหละ (หาลิงค์ไม่ได้ ขอโทษด้วย)

4. เซรั่มสูตรผมทำสี ของ free and free

                  ใช้หมดทั้งสูตรเจลและน้ำ ถูกและดี (ซื้อตอน 1 แถม 1 เท่านั้น  5555 ) เราผมยาวถึงกลางหลังและทำสีด้วย แต่ผมไม่เคยแตกปลายเลยล่ะ เราใช้แค่แชมพูธรรมดา (ครีมนวดก็ไม่ใช้นะ) กับเซตนี้ของ Free and Free นี่แหละ ของเค้าดีจริง ๆ ที่สำคัญ สิวไม่ขึ้นข้างแก้มด้วย ชอบก็ตรงนี้แหละ

4. บีเฟซต้า สูตรน้ำ สีเขียวและผองเพื่อน

ใช้มาเป็นขวดที่เท่าไหร่จำไม่ได้ละ ใช้ดีนะ สิวไม่ขึ้น ล้างได้หมดจดดี ตอนนี้ยังไม่คิดเปลี่ยนใจแน่นอน หมดก็ซื้อต่อไป เคยซื้อได้ถูกสุดที่อีฟแอนบอย 219 บาท เหมือนจะแพง แต่เราแต่งหน้าทุกวันก็ใช้ได้ 2 เดือนนะ สำลีสองแผ่น แล้วตามด้วยน้ำเกลืออีกที สิวไม่ขึ้นแน่นอน

5. กันแดดบานาน่าโบ๊ต สีเขียว

             ใช้ดีมากมาย หลดที่เท่าไหร่ไม่ได้นับแล้ว  ถูกสุดซื้อจากวัตสัน 199 บาท ยังงไม่แน่ใจว่าจะซื้อต่อไหม ถ้าลดก็ซื้อแหละ แต่รอเปลี่ยนอยู่ เพราะว่าเสื้อเชิ๊ตขาวเป็นคราบเหลือง ๆ มาก ซักไม่ออก น่าจะมาจากกันแดดตัวนี้แหละ ตอนนี้กำลังทดลองซื้อกันแดดตัวอื่นมาทดลองแทนยี่ห้อนี้อยู่

6. กันแดดบีโอเร สูตรน้ำนม สีฟ้า

             หลอดที่ 10 กว่าแน่นอน ใช้มาหลายปีมาก ยังไม่คิดเปลี่ยนใจ หมดซื้อใหม่แน่นอน เคยลองใช้บีโอเรหลายรุ่นมาก ทั้งสูตรมูส สูตรเจล สูตรน้ำ เราชอบสูตรนี้ที่สุด เคยถ่ายรูปแล้วเล่นเกมกับบีโอเรเค้าก็ให้สูตรน้ำนมอื่นมาให้ลองใช้ด้วย ก็ไม่ชอบนะ เราว่าตัวนี้ไม่ผสมสี สิวเลยไม่ขึ้น ทาแล้วก็แห้งไวด้วย ราคาก็ไม่แพง 1 ขวด ใช้ได้ 1 เดือน ราคาถูกสุดที่เคยซื้อได้ 207 บาท จากห้างแถวบ้าน 

7. วิตามิน E ศิริราช

              ที่สุดในตำนานของครีมทาหน้าของดิชั้น เพราะเราหน้าแห้งโครต พอทาครีมบาง ๆ ก็ลอก ทาครีมหนัก ๆ ก็สิวขึ้นอีก กรรมแท้ ๆ  หาครีมยากมาก ไม่ค่อยลงตัว

              ชอบตัวนี้เพราะเป็นครีมเนื้อปานกลาง ไม่ผสม น้ำหอม ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น เราทาทับฮาดาลาโบะอีกที ก็ไม่เคยหน้าลอกอีกเลย ใช้มาเกือบ 3 ปีแล้ว ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ ยืนยันที่จะใช้ต่อไปยันลูกบวชเลย  ตัวนี้ซื้อที่ตึกสยามมินท์ศิริราช 100 บาทถ้วน

8. สบู่ฮาโลเกต

            ใช้ดีมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ใครเป็นสิวแนะนำสบู่ตัวนี้เลย ช่วยเรื่องสิวได้ดีที่สุด 10/10 ไปเลยเซ่  มีหลายสีนะ แต่เราใช้สีเหลืองเพราะชอบแค่นั้นเองไม่มีสาเหตุอะไรเลย 5555 ใครเป็นสิว คิดว่าหมดทางรักษาแล้วลองเปลี่ยนมาใช้สบู่นี้ดู มันดีมาก ๆ อวยแบบไม่ได้ค่าตัวด้วยเอ่า 

9.จอห์นสัน ออกซิเจน เจล โลชั่น

              ซื้อมาทาตัวหลังอาบน้ำ เพราะเราผิวแห้งมาก แต่พอทาโลชั่น หรือใช้ออยก็สิวขึ้นอีก เลยพยายามลองหาโลชั่นที่ไม่มีส่วนประกอบของมิเนอรัลออย เพราะเค้าว่ากันว่านะ (อิชั้นก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ก็เชื่อไปนะ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน ลองเสริชดูเอาละกันนะ ไม่แน่ใจเรื่องข้อมูลนี้เลย ) ว่ามันจะทำให้อุดตัน เลยมาลงเอยที่ตัวนี้แหละ  ใช้ดีจริง ๆ สิวไม่ขึ้น แล้วก็ชุ่มชื่นได้พอสมควร เป็นลูกรักมา ซื้อตุนตลอดอ่ะ ตัวนี้ เจอโปร 1 แถม 1 เมื่อไหร่ก็จัดไป เคยซื้อได้ถูกสุด 2 ขวด 178 บาท 

10. ศิริราชซอฟครีม

             ครีมทาส้นเท้าแตกของศิริราช ส่วนผสมจริงใจมาก ยูเรีย 10 % เลยทีเดียว ราคา 25 บาท คุ้มค่ามาก ๆ อยากให้ลองใช้ตัวนี้ดูนะ ดีมากจริง ๆ ไม่แพงด้วย ดีกว่าที่ขายตามท้องตลอดมาก ๆ ลองดู

รู้สึกเหนื่อยมากกว่าจะพิมพ์จบ เฮ้อ รอบหน้ามีของเล่นใหม่เยอะมาก ถ้ามีเวลานะ ไว้มารีวิวให้ดู  (ไขว้นิ้ว)

-

Review : ว่าด้วยเรื่องขนตาปลอม

             เมื่อวันก่อนแอบไปซิ่งอีฟแอนด์บอยมา ไปถอยขนตาปลอมมา 2 คู่ ยี่ห้อ linlly jame เบอร์ 008 อยากลองติดดู ในชีวิตนี้เคยลอง 2 - 3 ครั้ง ไม่ประสบความสำเร็จ แต่อย่างใด เห็นแพคเกจมันสวยดีเลยถอยมาลองอีกสักรอบนึง 

              2 คู่ ราคา 79 บาท ฐานไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่ โอเคอยู่ อาจจะไม่ได้ธรรมชาติ เหมือนพวกแพง ๆ แต่ก็พอเอามาซ้อมฝึกมือได้อยู่ เค้าแถมกาวให้หลอดนึง กาวเป็นน้ำใส ๆ เหมือนจะโอเค กลิ่นไม่แรงเท่าไหร่ หากาวเก่าที่เคยซื้อมาไม่เจอเลยลองเอาที่แถมมานี่แหละลองติดดู

ด้วยความที่กำลังจะติดไม่ได้เลยถอยอุปกรณ์ช่วยมาด้วยอันนึง ราคาจำไม่ได้ รู้สึกจะ 49 บาท 

แกะออกมาแล้วก็มีอยู่ 2 ชิ้นนี่แหละ ตัวหนีบพลาสติกง่อย ๆ กับฐานรองนิ่ม ๆ อันนึง 

            ข้างหลังมีบอกวิธีติดมาให้ด้วย ไอ้เราก็เห็นว่าไม่แพง แถมน่าจะใช้ได้จริงเลยถอยมาแบบชิว ๆ แต่ปรากฏว่าปล้ำกะอีอุปกรณ์นี่นานมากแล้วก็ติดไม่ได้ซักที คือของเค้าคงใช้ได้จริงแหละ แต่คนซื้อแม่งโง่ไง ทำไม่ได้ 555 สุดท้ายเลยเอามือธรรมดานี่แหละติด เออ ติดได้ซะงั้น สรุปไอ้ที่ซื้อมานี่ไม่มีประโยชน์เลยจริง ๆ เสียดายเงินอีกละ

              ภาพ ก่อน - หลัง 

             

               ติดแล้วขนตาพุ่งเว่อร์มาก สวยดี ต้องลองหัดติดบ่อย ๆ ซะแล้ว จริงมันต้องชิดหัวตากว่านี้นะ มีกระดกด้วย อายจัง แต่ตอนนั้นมันเหนื่อยมากง่ะ  แค่ขอให้มันติดอยู่บนตาได้แล้วถ่ายรูปได้ก็พอละ เจ๊เหนื่อย รอบหน้าต้องลองพร้อมแต่งตาแบบจัดเต็ม มันคงเว่อร์พิลึก 555

-

Review : Lolane Z-Cool Bubble Foam Z1

Review :  Lolane Z-Cool Bubble Foam Z1

                      ซื้อจากซุปเปอร์แถวบ้าน มันมีโปรลดราคาตัดฝากล่องลด 20 บาท จากที่ถูกอยุ่แล้วเลยถูกมากไปกันใหญ่ ตก 190 บาทได้  ปกติเราใช้โฟมของลิเซ่เหรือไม่ก็น้องบลายด์ สีเดียวกันนี่แหละ น้ำตาลเทา ก็เลยจัดไป 1 กล่อง ถือว่าเอามาลองเผื่อดีจะได้เป็นลูกค้ากันต่อไป ไทยกินไทยใช้ไทยเจริญ

Review :  Lolane Z-Cool Bubble Foam Z1

                      อุปกรณ์ในกล่องก็คือ ๆ กับยี่ห้ออื่นนะ มีน้ำยา สี ถุงมือ เซรั่มบำรุงผมหลังทำสี แล้วก็คู่มือแผ่นใหญ่ ๆ (ลืมถ่าย) วิธีบ้อมก็ไม่ต่างกันของยี่ห้ออื่นคือผสมสีกับดีเวลอปเปอร์ในขวด แล้วก็หมุนไปมา ใส่ฝาปั๊ม หวีผมให้เรียบ แล้วซัดใส่ผมไปทีละช่อ ทิ้งไว้ประมาณ 45 นาที ล้างออก สระแล้วใส่ตัวบำรุงที่เค้าให้มา รอให้แห้งก็จะให้สีผมชัดขึ้นนะ

                     ผลการใช้ : กลิ่นไม่แรงนะ  สีชัดดี สม่ำเสมอกว่าที่คิด ทำแล้วเหมือนข้างกล่องเลยล่ะ แต่ถ้าเทียบกับ 2 ยี่ห้อนั้นเราว่าโลแลนให้น้ำยามาน้อยกว่า แทบไม่พอผมเราเลย แล้วตอนที่ทำเนี่ยของยี่ห้ออื่นจะเป็นโฟมไปยันเราล้างเลยนะ แต่ของโลแลนจะไหล กลายเป็นน้ำ ๆ เลอะไปหมดเลย ไม่แน่ใจว่าเราทำอะไรพลาดรึปล่าวนะ ส่วนตัวไม่ค่อยปลื้มตรงนี้เท่าไหร่ วันแรกที่ทำเสร็จสีจะเข้มกว่า พอสระไปเรื่อย  ประมาณอาทิตย์นึงสีก็เริ่มจากแล้วก็เหมือนข้างกล่องมากขึ้น อีกอย่างที่เราสังเกตได้คือสีมันเพี้ยนไวกว่ายี่ห้ออื่น เราใช้ลิเซ่ สองสามเดือนผ่านไป สีก็ยังไม่เพี้ยนมาก แต่ของโลแลนเนี่ยผ่านไปแค่เดือนกว่าผมก็เริ่มแดงแล้ว (ไม่มีรูปนะ เผลอลบรูปไปซะงั้น ขอโทษด้วย)

                   ถ้าให้เรียงความชอบของโฟมย้อมผมที่เคยใช้มา เราให้ ลิเซ่>โลแลน> น้องบลายด์ เราไม่ชอบกลิ่นน้องบลายด์เท่าไหร่ เซรั่มที่ให้มาก็โครตน้อยเลย สีที่ได้ก็ไม่เหมือนข้างกล่องด้วย ถ้าเทียบราคาปกติ  ความคุ้มค่า ประสิทธิภาพแล้วเราว่าซื้อโลแลนดีกว่่า 

                 ซื้อต่อไหม :  ถ้ามีโปรไม่เกิน 180 บาทก็อาจจะซื้อ 

ปล.ทำไมต้องตัดฝากล่องแล้วลดราคาด้วยอ่ะ ไม่เข้าใจ ลดเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ พอตัดฝากล่องแล้วกว่าจะถึงบ้าน ขึ้นรถเมย์หลายต่อของในกล่องกระจุยกระจายหมดเลย

4/5

---

Review : Spin Spa

                ชิ้นนี้เพิ่งสั่งซื้อเมื่อเดือนก่อน พรีออเดอร์มาราคารวมส่ง 650 บาท ใช้เวลานานมว๊าก จนลืมไปแล้วว่าสั่ง จนต้องเมล์ไปถามเจ้าของร้านอีกรอบว่าไม่ลืมนะคะ ใจเรานึกว่าโดนโกงแน่กรู หายไปไม่ส่งข่าวนานขนาดนี้ แต่พอเมล์ไปตามเค้าก็ตอบโอเคนะ แล้วหลังจากนั้นอีกอาทิตย์นึงก็ได้ของ และยังให้ของแถมมาอีก (ซึ่งคืออะไรไม่รู้เหมือนโดนัทดำ ๆ กลวง ๆ พี่สาวบอกว่าเป็นที่ตัดสก็อตเทป เอามาลองแล้วก็ใช้ไม่เป็น เลยโยนทิ้งไปละ 555 ขอโทษด้วยนะ)

            ไอ้ตัวนี้เป็นอุปกรณ์ช่วยเวลาอาบน้ำ แบบว่ามือไม่ถึงต้องใช้อุปกรณ์ช่วย  เหมือนแปรงล้างหน้าที่ขนาดใหญ่ที่เอามาขัดตัวได้ ใจจริงอยากซื้อ Clarisonic Plus แต่งบไม่พอ เลยเอาแบบนี้ไปก่อน  อันนี้มีหัวหลายแบบ ราคาก็ไม่แพงมากเลยสั่งมาลองใช้ดู ดูวีดีโอแล้วก็เคลิ้มมาก 

                    ตัวด้ามมันกันน้ำ ใส่ถ่านตรงก้น เปลี่ยนหัวได้ 5 แบบ ขนาดประมาณ 45 เซน หนักประมาณนึงเหมือนกัน (ถ้าใส่ถ่านแล้วนะ) ดูเหมือนจะแข็งแรง

แสกนโบว์ชัวมาให้เผื่อใครสนใจอยากอ่านใหญ่ ๆ ก็คลิ๊กที่ภาพได้เลยจ๊า

                 มาดูรูปซ้าย เป็นช่องใส่ถ่านและฝาปิด ดูง่อย ๆ แต่มันก็กันน้ำได้จริงนะ ต้องหมุนไปให้สุด มันจะมีสัญลักษณ์บอก ให้รูป 3 เหลี่ยมที่ฝาและด้ามตรงกัน ใส่ถ่าน AAA 3 ก้อน ส่วนรูปขวาเป็นปุ่มเปิด ถ้ากดซ้ำตรงปุ่มที่เป็นวง ๆ จะเป็นการเร่งความเร็วให้หมุนแรงขึ้นอีก มี 2 ระดับความแรง ตามความซาดิสต์ของคนใช้

                ระบบการทำงานของตัวนี้จะหมุนหัวเป็นวงกลมไปมา ด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างมากสำหรับเรานะ เลยคอนโทรลหัวหมุนลำบาก เพราะมันพาลจะหุนไปเองอยู่เรื่อย ทำให้ไม่สามารถกำหนดจุดที่เราจะทำความสะอาดได้ ยิ่งกดให้หมุนเบอร์แรงสุดนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย หมุนแรงและเร็วมาก จนคอลโทรลไม่ได้เลยล่ะ เกือบหลุดมือตั้งหลายรอบ

                   หัวแรก Micro Derm Head เป็นฟองน้ำบาง ๆ ง่อย ๆ มีรูข้าง ๆ ให้ใส่เจลอาบน้ำหรือสบู่เหลวลงไป หัวนี้ยังไม่ได้ลองใช้ ขอผ่านไปก่อนนะ

หัวที่ 2 เป็นหัวขัด Pumice Stone Head เอาไว้ขัดเท้าหรือถูเท้า เจ็บดีเหมือนกัน ขัดหลังเท้าดีนักแล

                   หัวที่ 3 cleansing head ทำความสะอาดทั่วไป ปกติก็จะใช้แต่อันนี้แหละ ขี้เกียจเปลี่ยน ขนแข็งมาก แต่ใช้ไปสักพักจะนิ่มลง พยายามทำความสะอาดให้ดี ถ้ามีคราบสบู่ติดอยู่จะเกิดเชิ้อโรคได้

                      หัวที่ 4 หัวนวด massage head เจ็บสัสอ่ะ ขอบอก ให้พลาสติกที่ให้มาแอบมีคมเหลืออยู่ ต้องเอากระดาษทรายขัดออกอีกรอบค่อยใช้จะดีมาก

                    หัวที่ 5  mesh sponge เป็นอันที่กะหลั่วที่สุดใน 3 โลก เหมือนเอากาวแปะฟองน้ำขัดตัวไว้กะหัวเฉย ๆ ซึ่งมาถึงมือดิชั้นก็จะหลุดแล้ว เอากาวอะไรแปะมาก็ไม่รู้ น่ากลัว ถ้ามาผสมกับสบู่ที่ใช้จะก้อให้เกิดปฏิกิริยาแปลก ๆ หรือปล่าวก็ไม่รู้ หัวนี้เลยวางไว้ในกล่องอย่างนั้นแหละ ไม่ได้ใช้งาน

                  ผลการใช้งาน : ทดลองใช้งานไปประมาณนึง คือ 1 อาทิตย์ ก็เจ๊งค่ะ 555 หัวไม่ยอมหมุน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน เปลี่ยนถ่านก็ไม่ช่วย ก็เลยใช้ทั้งแบบที่ไม่หมุนนั่นแหละ เหมือนซื้อแปรงขัดหลังด้ามยาวราคา 650 มาใช้ซะงั้น เวรกรรมแท้ ของจีนนี่มันห่วยจัง เก็บเงินซื้อ Clarisonic Plus ต่อไปดีกว่า ของถูกและดีบนโลกใบนี้นี่มันหายากชิง ๆ 

0/5

---

What's New ? : KOLBADENT Herbal Toothpaste คอลบาเด้นท์

                 นี่ก็เป็นของใหม่ที่ซื้อใช้ในรอบหลายเดือนมานี้ กล่องมันสวยดี เลยซื้อมาลอง สรรพคุณเว่อร์โครต อ่านแล้วเคลิ้ม ลองใช้ไปประมาณนึงละ ไม่อร่อยเลย ขม ๆ เหมือนพวกวิเศษนิยม แต่ใช้ไปสักพักก็เริ่มชินนะคะ ดีเหมือนกันแหละ กลิ่นปากไม่มาเยี่ยมเยือนเลย ต้องรอใช้หมดหลอดก่อนจะมารีวิวอีกรอบนะจ๊ะ

Review : Himalaya Herbals Refreshing Fruit Mask หิมาลายา เฮอเบิล รีเฟรชชิ่ง ฟรุ๊ตมาร์ค

           ซื้อมาจากวัตสันด้วยราคาลด 50% (175 บาท) เล็งมานานละ แต่ดันขาย 350 ซะงั้น ไม่เคยลดอะไรกะเค้าเล้ย เลยรีรอมานานไม่สอยซะที พอลดราคาขนาดนี้เลยจัดเลย ไปงมอยู่นาน มันมีที่อยากได้อีกสูตรคือ Himalaya Herbals Clarifying Mud Pack for combination to oily skin แต่หน้าเราแห้งไง เราตัดใจเอาสูตรนี้มากะว่าถ้าใช้ดีมีสอยต่อแน่นอน

             ถ่ายข้างหลังมาเผื่อใครอยากดูส่วนผสม ซึ่งมองไม่เห็นหรอก เพราะเสือกปิดฉลากภาษาไทยทับ อยากบอก ณ ตรงนี้เลยนะคะว่าบริษัทไหนที่ทำแบบนี้เลิกได้แล้วนะคะมึง เพราะนอกจากมองไม่เห็นส่วนผสมแล้ว คำโปรยกาก ๆ ที่เขียนมาหรอกลวงดิชั้นเนี่ยก็ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือเลยค่า เกะกะที่สุด มึงช่วยไปแปะตรงที่ว่าง ๆ ได้ไหมคะ น่ารำคาญมาก เออ ถ้าจะแปะบอกวันเดือนปีที่ผลิตก็ว่าไปอย่างนะ แต่นี่ ก็เสือกเขียนว่า วันเดือนปีที่ผลิตดูที่บรรจุภัณฑ์ (ซึ่งมึงแปะทับอยู่) แล้วประโยชน์หรือสาระของอีฉลากนี่คืออะไรคะ ถ้ามันไม่มีประโยชน์จริง ๆ ก็อย่าทำเลยค่ะ เปลือง โลกร้อนนะคะ พวกเราต้องช่วยกัน

          เนื้อผลิตภัณฑ์สีนวล ๆ เหมือนอึอึ๊เลย ขอบอก เวลาทาที่หน้านะ ใช่เลย พอแห้งแล้วค่อยโอเคหน่อย เท็กเจอร์ดีนะ นุ่ม ๆ ดี ไม่เหมือนพอกโคลนหรือดินสอพอง ตัวนี้ตอนพอกจะแสบ ๆ หน้านิดนึง ประมาณ 30 วิ (ถ้านานกว่านี้คือมึงแพ้นะคะ รีบล้างออก โอเค๊) เวลาแห้งจะไม่ร่วงเป็นผง ๆ นะ พอแห้งจะเหมือนทาแป้งหนา ๆ เท่านั้นเอง กลิ่นไร้ซึ่งการจดจำมาก นึกกลิ่นไม่ออกเลย เดินไปดมแล้วก็ไม่รู้สึกถึงกลิ่นหอมใด ๆ เลย แต่เราชอบนะ ส่วนใหญ่เรามักแพ้ตัวที่ใส่น้ำหอมเยอะ ๆ อันนี้เหมือนไม่ใช่สาระสำคัญของมัน เลยใส่มาน้อยมั้ง

         ตัวนี้เอาไว้ใช้เวลาที่ขี้เกียจกวนส่วนผสมมาพอกหน้า บีบ ๆ แล้วก็พอก เล่นเกมจบไป 10 ด่านก็เดินไปล้างแล้วอาบน้ำต่อได้เลย ดีมาก เหมาะกับวันที่ขี้เกียจ ผลไม่ต่างกับการพอกด้วยน้ำผึ้ง ดินสอพอง หรือ โยเกิร์ตหรอก ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีนะ ที่อยากจะบอกคือ มันให้ความรู้สึกว่า เออ กูก็ใส่ใจกับตัวเองนะ พอกหน้าบ้างอะไรบ้าง แต่ผลแบบชัดเจนว่าพอกแล้วเด้งเลยอ่ะ ไม่ปรากฏแน่นอน มันต้องอาศัยเวลา ซึ่งถึงจะหน้าดีก็ตามก็จะโทษตัวไหนตัวหนึ่งไม่ได้อยู่ดี เพราะมีของพอกหน้าเยอะไปหมด ทั้งมาดามเฮง บิวตี้ไดอารี มาร์กแผ่นกิ๊กก็อกอีกจำนวนมาก 

        

         สรุป ไม่แพ้ ใช้ดี ชอบ แต่..... กรุณาเลือนลงไปอีก ดิชั้นจะบอกเหตุผลที่จะไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อนี้อีกต่อไป

เลื่อนลงไปค่ะ

อีกค่ะ

อีกค่ะ

ยังไม่พอ

อีกนิดค่ะ

เหตุผลคือ....

               แพกเกจค่ะ ดอกทองมาก นี่คือใช้ไปได้แค่ 2 ครั้ง ก็นั่งบีบอยู่ตั้งนาน ทำไมไม่ออกวะคะ สักพักอิชั้นก็แหงะไปดูที่ปลายหลอด บระเจ้า ไหลออกตูดค่าพี่น้อง แพกเกจไม่ได้มาตรฐานอย่างแรง หรือเพราะการนี้ วัตสันถึงได้ลดราคาเยอะขนาดนี้กันแน่ นี่ใครหลองลวงผู้บริโภคอย่างชั้นคะเนี่ย วัตสันหรือ เบอรี่ยุกเกอร์ สรุปเลยละคะ มึงเลวพอกันค่ะ อิชั้นโกรธมาก ณ จุดนีี้ของไม่มีมาตรฐานก็เอามาขายกันเน๊อะ ไม่มีจรรยาบรรณเลยนะคะ อีเจ้าของบริษัทเนี่ย กลางคืนนอนหลับกันไหมคะ มาหากำไรกับคนหาเช้ากินค่ำอย่างชั้น  กลางคืนนอนละเมอหัวเราะเลยไหม ดีใจที่หลอกขายของที่มีปัญหากับคนโง่อย่างอิชั้นได้ ขอโทษที่อยากลอง  ขอโทษนะที่เห็นของแก่ของเซลล์ เลยหน้ามืดตามัวไม่เชคให้ดีก่อน  แล้วก็ไม่ต้องมาโทษว่าดิชั้นเก็บไม่ดีนะคะ เพราะเปิดใช้เสร็จก็วางไว้ในตู้เย็นที่เก็บสกินแคร์ ซึ่งไม่ได้มีการกดทับอะไรแน่นอน

             มาร์กหลอดนี้โยนทิ้งนะคะ ถึงจะจนดิชั้นก็มีศักดิ์ศรีนะคะ ของไม่ดีก็ไม่ใช้หรอกค่ะ ตูดเปิดขนาดนี้ มันคงเริ่มปริมาตั้งแต่อยู่ในร้าน คงมีเชื้อโรคสะสมไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว ไม่เสี่ยงนะคะคุณ 175 บาท ที่ได้จากดิชั้นไป ถือว่าทำบุญให้นะคะ มีความสุขก็เอาไปเถอะค่ะ แบนค่ะ ทั้งวัตสันและฮิมาลายา ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น สาบานได้เลยว่าจะไม่เข้าและซื้ออีก อีเลวววววววววว 

// สะบัดบ็อบ

0/5

---

-

Review : Victoria Egg White Pack Soap (สบู่ไข่สวีเดน)

                สบู่ไข่สวีเดน ของเด็ดของดีที่โดนสะกดจิตจากเคเบิ้ลทีวี นั่งดูไปทุกวันก็เกิดกิเลสขึ้นมาซะงั้น รายการทีวีพวกนี้นี่ดูแล้วเหมือนการสะกดจิตยังไงบอกไม่ถูก ทุกอย่างที่ขายมันช่างน่าใช้ไปหมด แต่ในช่องแอบขายแพง โชคดีที่ไม่หลงคารมซื้อไปก่อน เพราะเซเว่นเอาขนาดทดลองมาขายแค่ 69 บาทเอง เราก็เลยซอยมาซะหลายกล่อง จริง ๆ เยอะกว่านี้นะแต่ใช้เหลือแค่นี้เอง

             ขนาดแค่นี้เราใช้เกือบเดือนนึงเลยนะ ใช้แค่เช้าอย่างเดียวมั้งเลยไม่เปลือง เอาตรง ๆ นะก็ไม่ได้หวังอะไรกับมันมาก  แค่อยากลองแค่นั้นเอง เพราะเราใช้ฮาโรเกตอยู่ (ซึ่งก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนใจนะจ๊ะ) ส่วนตัวคิดว่ามันใช้ดีทีเดียวเลยนะ ล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง ถึงจะใช้ตามวิธีที่เค้าบอกคือพอกไว้ 5 นาที ตอนล้างออกก็ยังไม่แห้งตึงนะ หน้าจะรู้สึกอิ่ม แล้วก็รู้สึกเรียบเนียนขึ้นเลยล่ะ กลิ่นหอมแบบนม ๆ ละมุนดี ฟองเยอะใช้ได้เลย เค้าเครมเรื่องรูขุมขนเล็กลง ถ้าถามว่ามันได้ผลไหม เราว่าไม่ชัดนะ อาจจะเพราะเราไม่ได้ใช้ประจำวันละ 2 ครั้ง แบบเค้าบอกก็ได้ ส่วนตัวเราชอบนะ ถ้าหมดคงซื้อตุนไว้อีก (ถ้าราคานี้นะ) เอาไว้ใช้เวลาเดินทาง เพราะเวลาพกพวกเจลล้างหน้าไปมันชอบโดนกดทับ หกเลอะเทอะทุกทีไป เอาแบบก้อนไปสะดวกกว่ามาก

                  ขนาดเล็กมากจริง ๆ ถ้าเทียบกับราคา 69 บาท ถ้าถามว่าควรซื้อไหม เอาเป็นว่าถ้าอยากลองก็ลองเหอะ (อย่าคิดมาก เดี๋ยวนอนไม่หลับ) ไม่แพงนะ 69 บาท ถ้าใช้แล้วไม่แพ้ ถูกกะหน้า จะเป็นสบู่ที่ดีมากเลย 

4.5/5

---

Review : Boots 24 Hour Protection Sensitive Unfragranced Anti-Perspirant

                  ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพเลย งานยุ่งมากมาย อยากลาออกกลับบ้านนอกไปทำนาซะให้รู้แล้วรู้รอดไป ถึงจะงานยุ่งแต่ก็มีเวลาชอปนะ และของที่ชอบมาก ๆ ในรอบหลายเดือนนี้ อยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักก็คือ  สเปรย์ระงัยกลิ่นของบู๊ทนั่นเอง ซื้อมาตอนลดราคาแบบไม่ได้ตั้งใจ จากร้อยกว่าบาทเหลือแค่ 79 เอง ถูกเหมือนได้ปล่าว ขวดใหญ่มาก 250 ml แน่ะ

                เราเป็นคนกลิ่นตัวแรงนะ ตอนแรกใช้แป้งเต่าเหยียบโลกอยู่นะ อันนั้นเทพจริงคอนเฟริมเลย กลิ่นไม่มีเลยจริง ๆ แต่วิธีใช้มันลำบากไปหน่อยต้องทาจั๊กให้เปียก ๆ แล้วถึงเทแป้งใส่จั๊ก บางทีมันก็เป็นคราบขาว ๆ น่าเกลียดอ่ะ ชอบลืมว่าทาแป้งเต่าแล้วเปลี่ยนเสื้อพอใส่ตัวใหม่มันก็เลยชอบเปื้อนคราบของแป้ง

              ตัวนี้ชื่อยาวมาก Boots 24 Hour Protection Sensitive Unfragranced Anti-Perspirant สรุปคือตัวระงับเหงื่อที่ไม่มีกลิ่นนั่นเอง จริง ๆ มันมีหลายสูตรนะ หลายสีด้วย แต่เพราะอะไรถึงซื้อตัวนี้มาก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนั้นเมาอยู่แถวข้าวสาร ร้านจะปิดแล้วก็เลยเดินไปเล่น ๆ 555+++

              ส่วนตัวเราชอบสเปรย์นี้มาก เพราะบางทีถ้าเราทาโรลออนกลิ่นมันชอบไปตีกับน้ำหอมที่เราใส่จนมั่วไปหมดแต่พอใช้แบบนี้แล้วมันไม่มีกลิ่นไง กันเหงื่อกะกลิ่นตัวอย่างเดียว จะใส่น้ำหอมอะไรก็หอมชื่นใจ สมราคาน้ำหอมมาก ๆ ที่สำคัญ ตัวนี้ป้องกันกลิ่นได้ดีเหมือนโฆษณาเลย 24 ชั่วโมงจริง ๆ 10/10 ไปเลย เป็นลูกรักแทนแป้งเต่าเป็นที่เรียบร้อย

             ทริกในการฉีดของเราคือห่างประมาณ 15 เซน สักประมาณ 3 วิ จะให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ถ้าใกล้ไปสเปรย์จะกลายเป็นคราบขาวติดจั๊กแร้เลยละ ขอบอก ต้องห่างนิดนึงเหมือนเราพ่นสีสเปรย์แหละ อีกอย่างคือถ้าฉีดน้อยไปก็จะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ สำหรับเรา 3 วิ เป็นระยะเวลาที่เราว่าโอเคกับเรามาก กลั้นใจนับ 1 2 3 ก็หยุดฉีด

           เราว่าตัวนี้เหมาะกับคนที่ลงทุนซื้อน้ำหอมแพง ๆ แล้วไม่อยากให้กลิ่นโรลออนไปตีกับน้ำหอมหรือคนที่มีเหงื่อเยอะ ๆ ก็ดีนะ กันเหงือได้ชะงักนักแล ราคาไม่แพงด้วย หมดแล้วก็คงซื้อใหม่อีกแน่นอน เจ๊ยืนยัน ของเค้าดีจริง ๆ 

5/5

---

Review : Purete’ Honey&Yogurt Repair Essence

                    ได้ตัวอย่างจากเวบวนิลา (รักนะจุบุ ๆ ) เมื่อเมื่อเดือนก่อนโน้น จริง ๆ เขียนอันนี้ทิ้งไว้ตั้งแต่ได้ใหม่ ๆ ละ แต่ยังไม่ได้โพสต์ พอใช้หมดแล้วก็มาอีดิทใหม่ สารภาพว่าจริง ๆ เป็นคนไม่ค่อยดูแลผมเท่าไหร่ ไม่ค่อยหมัก ไม่ใช้ครีมนวดด้วย นาน ๆ ถึงจะทำที ปกติก็แค่หมักน้ำมันมะกอกหรือไข่แดงเท่านั้นแหละ เลยไม่เคยมีผลิตภัณฑ์ทำนองนี้ในบ้านเลยแฮะ มีที่บำรุงอยู่ตัวเดียวคือฟรีแอนด์ฟรี ของผมทำสี ขวดสีแดงที่หนึ่งแถมหนึ่งมาจากอีฟแอนด์บอย เลยไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไร 

ถ่ายข้างกล่องมาเผื่อใครอยากเห็นส่วนผสม

           ส่วนตัวเราชอบแพกเกจนะ ชอบกล่องหลายเหลี่ยมแบบนี้มาก ดูลงทุนดี เกร๋ด้วยเหมือนรวงผึ้งตามส่วนผสมเค้าเลย

                    เราใช้จนหมดขนาดทดลองนะ วิธีใช้คือเอามาหมักกับผมหมาดแล้วเอาผ้าชุบน้ำอุ่นโพกทับอาทิตย์ละครั้ง ส่วนตัวเราว่าก็ไม่ได้เลวร้ายนะ ใช้ดีทีเดียวแหละ ล้างง่ายกว่าพวกน้ำมันมะกอกไข่แดงที่เราเคยพอก กลิ่นก็หอมดี ล้างออกแล้วผมนุ่มแบบไม่ลีบติดหนังหัวมันแผล่บด้วย ราคาไซต์จริง 250 ml ประมาณ 80 บาท ส่วนตัวเราถือว่าคุ้มค่านะ ดีกว่าของวัตสันอีก แต่ถามว่าจะให้ซื้อใช้เองไหม ก็คงไม่นะ เพราะเราชอบพอกแบบธรรมชาติมากกว่า (มีน้ำมันมะกอกขวดใหญ่นอนรออยู่ที่บ้านอีก 2 ขวด) อีกอย่างนึกคือเราชอบใช้แบบเสปรย์ไม่ต้องล้างออกมากกว่า ถ้าให้เลือกซื้อคราวหน้ามีโอกาสคงอยากลอง PURETE HONEY AND YOGURT DEEP REPAIR ESSENCE มากกว่า เผื่อเอามาแทนฟรีแอนด์ฟรีที่ใช้อยู่ประจำ