ผ่านไปหลายเดือนพึ่งมีเวลามาเขียนภาคต่อ อภัยในความล่าช้าด้วยฮ่ะ เราไปทำครั้งสุดท้ายที่คลินิกประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ดังนั้นสภาพแผลที่เห็นคือสิ้นสุดคอร์สไปแล้วนะ ตอนเริ่มต้นคอร์ส เรามีขี้แมลงวันจำนวนทั้งสิ้น 21 เม็ด มีขนาดใหญ่ 10 เม็ด เป็นไฝ มีรอยนูน 1 เม็ด ที่เหลือเป็นขี้แมลงวันขนาดเล็ก ลองมาดูกันว่าสภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง เราจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มที่หายขาด และกลุ่มที่หมอจี้ไม่หมด (ลองย้อนกลับไปดูภาพเก่าที่ลิงค์ด้านบนได้นะ)
กลุ่มแรก : หายขาด
เราคิดเป็น 70 เปอร์เซนของทั้งหมด หลังจากจี้ครั้งสุดท้ายก็ไม่มีจุดดำขึ้นมาอีก จะเหลือแค่หลุมตื้นและรอยแดงที่พยายามรักษาอยู่ แต่บางเม็ดกลับมีรอยนูนเพิ่มขึ้นมาด้วย อันที่หายแล้วเราจะไม่ถ่ายรูปมาด้วยนะ เพราะมันหายไปหมดแล้ว จะถ่ายเฉพาะที่ยังมีรอยแดงเหลืออยู่ก็แล้วกันค่ะ
อันนี้เป็นจุดที่อยู่ข้างแก้ม เดิมทีเป็นขี้แมลงวันขนาดเล็ก ทั้ง ๆ ที่เป็นจุดที่ไม่เคยทำซ้ำ แต่รอยแดงกลับไม่ยอมหายซะที อาจจะเป็นเพราะมันบอบบางมากก็ได้
ส่วน 2 เม็ดนี้อยู่ใกล้คาง เดิมเป็นขี้แมลงวันขนาดใหญ่ เกือบ 0.5 เซนได้ อันนี้ทำซ้ำทุกครั้งที่ไปจี้ เพราะหลังจากทำก็จะมีรอยจุดดำ ๆ ขี้นซ้ำตลอด โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะหายขาดนะ ซึ่งก็ต้องรอดูต่อไป
กลุ่มที่ 2 : กลุ่มที่หมอจี้ไม่หมด (หรือกลุ่มที่รากอยู่ลึก)
ขออภัยที่ภาพสยองไปนิด พอซูมหนังหน้าแล้วมันน่ากลัวจิง ๆ 555 จะสังเกตเห็นว่ารอยแดงเริ่มจาง แต่กลับมีขี้แมลงวันเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกในจุดเดิม
มาดูจุดอื่นกันบ้าง อันนี้ยังเป็นหลุมชัดเจนอยู่ มีขี้แมลงวันเริ่มขึ้นมาเป็นจุดเล็ก ๆ ตรงกลาง หวังว่าถ้าเนื้อเต็มแล้วจะไม่ใหญ่เท่าเดิมนะ
อันนี้ก็แนวเดียวกันอันข้างบน แต่รอยขี้เเมลงวันมันใหญ่เท่าเดิมเลยล่ะ
อันนี้เดิมเป็นไฝนูน เอาออกได้ขนาดนี้ก็โอแล้วล่ะ
ที่เห็นเป็นทางน้ำนั่นน่ะ เหงื่อ 555 โครตร้อนเลยเน๊อะ ประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้แล้ว โลกใกล้แตกจริงแหละ แค่จะถ่ายรูปแค่เนี้ย เหงื่อมาเป็นทางเลย อันนี้อยากให้สังเกตหลุม ไม่ลึกนะ แต่ก็ยังเห็นว่าเป็นหลุม
อันนี้ก็แนวเดียวกับข้างบน เป็นหลุม มีรอยแดงและเริ่มมีจุดขี้แมลงวันขึ้นซ้ำที่เดิม
อันนี้ถ่ายกับแสงที่อยากให้ลองสังเกตถึงรอยหลุมบนสภาพหน้าปัจจุบัน เราเชื่อมั่นนะว่ามันจะเต็ม แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักเดือนหรือสองเดือน
สรุป เดิมมีจุดขี้แมลงวันอยู่ 21 จุด หลังจากหมดคอร์สไปแล้วสองเดือนมีขี้แมลงวันขึ้นซ้ำในจุดเดิม 7 รอย คิดเป็น 33 เปอร์เซนของทั้งหมด ใช้งบประมาณ 4800 บาท คิดซะว่าเท่ากับจุดละ 230 บาท
ความคุ้มค่า ถ้าเฉลี่ยจุดละ 230 บาท ถือว่าไม่แพงนะ ในความคิดเรา และยังสามารถผ่อนได้อีกด้วย ได้แต้ม ไม่ต้องเสียเงินก้อน
ประสิทธิภาพ เราไม่พอใจกับผลการรักษานะ การที่คิดคอร์สมาว่าจี้ได้ 4 ครั้งในรอบ 2 เดือน เราคิดว่ามันเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป จริง ๆ แล้วการที่เราจะรู้ว่าขี้แมลงวันจะขึ้นใหม่อีกหรือไม่ ใช้เวลาเกือบ 1 เดือนเลยนะ บางครั้งไปเนี่ยผิวมันก็ยังไม่แข็งแรงพอที่จะให้จี้ซ้ำได้เลย เราไปให้หมอเช็กครั้งแรก หมอยังออกปากเลยว่าจริง ๆ มาตอน 1 เดือนไปแล้วก็ได้ เพราะมาตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นว่าจุดไหนขึ้นซ้ำบ้าง (ซึ่งจะให้คุ้มราคาที่ทำไปก็ต้องมาทุกสองอาทิตย์น่ะ ) เราเข้าใจนะ ถึงสาเหตุที่ว่าทำไมถึงจี้ไม่หมด เพราะถ้าจี้ให้หมดทีเดียวมันจะเป็นหลุมลึกเกินไป แต่เราคิดว่าทางคลินิกน่าจะปรับคอร์สเป็นว่าทำได้ 4 ครั้งภายใน 4 หรือ 6 เดือนมากกว่า ทำในขณะ 2 เดือนเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป
ที่เราคิดแบบนี้เพราะว่าหลังจากที่เราทำจนครบคอร์สนั้นขี้แมลงวันเราก็ไม่ได้หายไป หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือนถึงจะเห็นว่ามันขึ้นมาซ้ำอีก อยากให้คลีนิกให้เวลามากกว่านี้
จะทำต่อไหม ตอบเลยว่าไม่ จากนี้จะรักษาหลุมและรอยแดงให้หาย เพื่อที่จะรอดูว่าขี้แมลงวันที่เหลือกลับมาใหญ่แค่ไหน จะได้หาคลีนิกใหม่ทำ
ข้อแนะนำและความคิดเห็นอื่น ๆ
1. เลเซอร์ตัวนี้แนะนำให้ทำตอนที่มีเวลาพักหน้า หาช่วงที่มีวันหยุดยาวไปทำดีที่สุด เพราะถ้าต้องแต่งหน้าในขณะที่เป็นแผลจากเลเซอร์อาจจะอุดตันและแผลไม่แห้งไวในแบบที่ควรจะเป็นได้
2. ไม่ควรทาพวกไวเทนนิ่งหรือครีมที่มีการขัดหน้า จะทำให้รอยแดงหายช้า แนะนำให้มาร์คหน้าหรือทาครีมที่มีส่สนผสมของวิตามินอีเป็นประจำ เพื่อบำรุงหน้าและรอยจะตื้นไวขึ้น
3. ส่วนตัวคิดว่าไม่ควรหาครีมลดรอยแผลเป็นในตอนนี้ ครีมบางตัวจะเร่งให้สร้างเนื้อเยื่อ ขี้แมลงวันที่ถูกจี้ไม่หมดก็จะได้สารบำรุง ทำให้มันขึ้นใหม่ได้อีก (คหสต ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ)
4. ถ้าไม่อยากมีหลุมบนหน้า แนะนำว่าอย่าทำ เพราะกว่าหลุมจะหายใช้เวลานานมาก ๆ ๆ จนท้อเลยล่ะ
5. ไปทำเลเซอร์มาใหม่ ๆ อย่ามือบอนแกะ ปล่อยให้มันตกสะเก็ดและหลุดไปเองดีที่สุด แผลเป็นจะไม่มี หลุมก็จะน้อย
6. เวลาไปกรุณาจิตแข็ง พนักงานพยายามขายคอร์สตลอดเวลาฮ่ะ
1.5/5